World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 6, 2019 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 30.53 จุด หรือ 0.11% เมื่อคืนนี้ โดยดาวโจนส์ และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮอีกครั้ง ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า จีนกำลังเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าบางส่วน เพื่อปูทางไปสู่การลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนต.ค.

-- การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงส่งสัญญาณบวก โดยล่าสุดสำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า จีนต้องการให้สหรัฐยกเลิกคำสั่งการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 15% วงเงิน 1.25 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งคำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา

ขณะที่วอลล์สตรีท เจอร์นัล และไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกำลังพิจารณาประเด็นการยกเลิกภาษีนำเข้าบางส่วน เพื่อผลักดันให้มีการลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสองฝ่าย

-- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐดีดตัวแตะระดับ 54.7 ในเดือนต.ค. จากระดับ 52.6 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559

ดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ โดยมีการขยายตัวเป็นเดือนที่ 117 ขณะที่ได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย คำสั่งซื้อใหม่ และการจ้างงาน

อย่างไรก็ดี ข้อมูลของ ISM สวนทางกับผลสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน ซึ่งระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.6 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2559 จากระดับ 50.9 ในเดือนก.ย. เนื่องจากถูกกดดันจากการชะลอตัวของคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่การจ้างงานทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2552 แต่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน

-- ราคาหุ้นโบอิ้งปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ หลังจากนายเดฟ คาลฮูน ประธานกรรมการบริษัทโบอิ้ง กล่าวว่า คณะกรรมการบริษัทเชื่อว่านายเดนนิส มุยเลนเบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของโบอิ้ง ได้ทำทุกอย่างที่ถูกต้อง แม้ว่าเขาถูกสภาคองเกรสโจมตี กรณีเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX 2 ลำประสบอุบัติเหตุตกลงในปีที่แล้ว จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน

นอกจากนี้ นายมุยเลนเบิร์กยังเสนอที่จะไม่รับเงินโบนัสประจำปีนี้ จนกว่าฝูงบิน MAX จะได้รับการอนุมัติให้ขึ้นบินทั้งหมด และบินอย่างปลอดภัย โดยสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหน้า หรือต้นปี 2564

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่กรรมการบางส่วนได้เรียกร้องให้ BOJ ตระหนักถึงความจำเป็นในการเริ่มแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงิน

รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า การฟื้นตัวอย่างล่าช้าของเศรษฐกิจในต่างประเทศอาจจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ซึ่ง BOJ จำเป็นต้องเริ่มพิจารณาการใช้นโยบายเพื่อรับมือ ควบคู่ไปกับการจับตาผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย

อย่างไรก็ดี กรรมการทั้ง 9 คนของ BOJ ยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการดำเนินโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกรรมการจำนวนหนึ่งเตือนว่า BOJ ควรคำนึงถึงผลกระทบในด้านลบจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งรวมถึงผลกระทบที่จะมีต่อความสามารถในการทำกำไรของบรรดาสถาบันการเงิน

-- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า เขาพอใจกับเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวชันขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และมองว่าเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่า เฟดดำเนินนโยบายการเงินที่เหมาะสมแล้วในขณะนี้

นายแคปแลนกล่าวว่า เขามีมุมมองเป็นบวกต่อเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวเป็นปกติมากขึ้น หลังจากที่เขาเคยแสดงความวิตกในช่วงที่ผ่านมาว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่อยู่สูงกว่าเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นสัญญาณเตือนว่า เฟดกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป

-- นายพอล ทิวดอร์ โจนส์ ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์มูลค่ามากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะทรุดตัวลงอย่างหนัก หากนางเอลิซาเบท วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเสตต์ สังกัดพรรคเดโมแครต ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563

ในทางกลับกัน นายโจนส์กล่าวว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะพุ่งขึ้น หากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คว้าชัยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า

ทั้งนี้ ในการกล่าวบนเวที Greenwich Economic Forum เมื่อวานนี้ นายโจนส์กล่าวว่า ดัชนี S&P 500 จะดิ่งลง 25% แตะระดับ 2,250 จุด หากนางวอร์เรนสามารถคว่ำปธน.ทรัมป์ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในปีหน้า เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อแผนการจัดเก็บภาษีความมั่งคั่งของนางวอร์เรน แต่ดัชนี S&P 500 จะทะยานขึ้น 15% แตะระดับ 3,600 จุด หากปธน.ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี

"การเลือกตั้งประธานาธิบดีในครั้งนี้จะมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ และตลาดหุ้น ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความหมายมากกว่าครั้งใดในชีวิตผม" นายโจนส์กล่าว

-- นายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เปิดเผยถึงสาเหตุที่อินเดียตัดสินใจไม่ลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP ในการประชุมที่กรุงเทพฯ ว่าเนื่องจากยังคงมีความเห็นต่างเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีศุลกากร การขาดดุลการค้าของอินเดีย และการตั้งกำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี

นายโมดีกล่าวว่า "ความตกลง RCEP ในรูปแบบปัจจุบันไม่ได้สะท้อนถึงหลักการขั้นพื้นฐานของ RCEP และไม่ได้ตอบสนองต่อปัญหาที่อินเดียกำลังเผชิญอยู่ จึงทำให้อินเดียไม่สามารถลงนามในความตกลง RCEP"

ขณะที่นายพิยุช โกยาล รัฐมนตรีการค้าอินเดีย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังจากนั้นว่า อินเดียควรเจรจาทำข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป (EU) โดยรวมถึงสินค้าเกษตร สิ่งทอ และเครื่องประดับ

ทั้งนี้ อินเดียมีความวิตกว่าความตกลง RCEP ซึ่งกำหนดให้ประเทศสมาชิกยกเลิกการจัดเก็บภาษีศุลกากร จะเปิดช่องให้สินค้าจากจีนไหลทะลักเข้าสู่อินเดีย รวมทั้งสินค้าด้านการเกษตรจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในประเทศ

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ โดยมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี และอียู ในขณะที่เยอรมนีเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย อียูเตรียมเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเตรียมเปิดเผยยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนก.ย. เยอรมนีจะเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. จีนเตรียมเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนต.ค. ขณะเดียวกันธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็กำลังเตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ