World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 15, 2019 08:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังคงเผชิญอุปสรรคจากการที่สหรัฐเรียกร้องให้จีนซื้อสินค้าเกษตรมากขึ้น ขณะที่จีนปฏิเสธเงื่อนไขของสหรัฐที่ต้องการให้จีนยุติการบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี นอกจากนี้ จีนยังเรียกร้องให้สหรัฐระงับการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก

อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชนี S&P500 ดีดตัวขึ้นทำนิวไฮอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงวอลมาร์ท และเวียคอม

-- บริษัทวอลมาร์ท ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 3 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า บริษัทมีกำไร 1.16 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 3.2% ในสหรัฐ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9% ส่วนยอดขายในระบบออนไลน์พุ่งขึ้น 41% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 35%

-- เวียคอม บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของ MTV, พาราเมาท์ พิคเจอร์ส และคอมเมดี เซ็นทรัล เปิดเผยรายได้ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 4 ของปีงบการเงินบริษัท สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ทั้งนี้ เวียคอมเปิดเผยว่า บริษัทมีรายได้ที่ระดับ 3.43 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.41 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดี กำไรลดลงสู่ระดับ 75 เซนต์/หุ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ระดับ 96 เซนต์/หุ้น

-- ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ประกาศปรับธนาคารยูบีเอสจากสวิตเซอร์แลนด์คิดเป็นเงิน 11.2 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) หลังจากที่การสอบสวนพบว่าทางธนาคารได้หลอกลวงลูกค้าเกี่ยวกับราคาของหุ้นกู้ และหุ้นกู้อนุพันธ์

MAS เปิดเผยว่า ยูบีเอสได้รายงานการกระทำที่ผิดกฎระเบียบของที่ปรึกษาลูกค้าหลายรายในฮ่องกงและสิงคโปร์ในปี 2559

MAS ระบุว่า การกระทำของยูบีเอสผ่านทางตัวแทนเป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ และไม่ควรเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมบริการการเงิน ซึ่งความไว้วางใจและความซื่อสัตย์ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

อย่างไรก็ดี MAS ระบุว่า ยูบีเอสได้ให้ความร่วมมือในการสอบสวน และได้จ่ายเงินชดเชยแก่ลูกค้าแล้ว

-- นายหลุยส์ เดอ กวินโดส รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า แนวโน้มที่เศรษฐกิจยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยมีอยู่ต่ำมาก แต่ยุโรปกำลังเผชิญกับภาวะการขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

นายเดอ กวินโดสกล่าว หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้อย่างฉิวเฉียด

-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนพ.ย. ระบุว่า ตลาดน้ำมันโลกจะเผชิญกับภาวะน้ำมันล้นตลาดเพียงเล็กน้อยในปีหน้า

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า อุปสงค์น้ำมันของโอเปกจะลดลงในปีหน้า โดยอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 29.58 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 1.12 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะน้ำมันล้นตลาดราว 70,000 บาร์เรล/วัน ต่ำกว่าในรายงานก่อนหน้านี้ที่ระดับ 340,000 บาร์เรล/วัน

คาดว่าการลดลงของอุปสงค์ดังกล่าวจะส่งผลให้โอเปกและประเทศพันธมิตรจะยังคงเดินหน้าปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมกำหนดนโยบายการผลิตในวันที่ 5-6 ธ.ค.

-- รัฐบาลฮ่องกงออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า ข่าวลือที่ว่ารัฐบาลเตรียมประกาศเคอร์ฟิวในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่โกลบอล ไทมส์ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ของจีน ได้ทวีตข้อความว่า รัฐบาลฮ่องกงเตรียมประกาศเคอร์ฟิว ก่อนที่จะลบข้อความดังกล่าวในเวลาต่อมา

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวว่า การฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย และการยุติความรุนแรง เป็นภารกิจเร่งด่วนสำหรับฮ่องกงในขณะนี้

ปธน.สี จิ้นผิงกล่าวว่า จีนยังคงสนับสนุนให้นางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ดำเนินนโยบายตามกฎหมาย และลงโทษผู้ก่อการจลาจล

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า เขายังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ในเศรษฐกิจสหรัฐ หรืออันตรายที่เกิดจากการที่สหรัฐขาดดุลเป็นจำนวนมาก

นายพาวเวลกล่าวเสริมว่า การที่ดอลลาร์มีสถานะเป็นสกุลเงินสำรองของโลก ได้ช่วยลดผลกระทบจากการที่สหรัฐมีหนี้สินมากกว่า 23 ล้านล้านดอลลาร์

"เราเป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เรามีสถาบันที่ดีที่สุด และเรามีแรงงานที่ดีที่สุด เรามีความแข็งแกร่งเช่นนี้ ทำให้ผมคิดว่าวันแห่งหายนะจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้" เขากล่าว

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน มีการขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3 เมื่อเทียบรายไตรมาส สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่มีการเติบโต 0.2% ในไตรมาส 2 เช่นกัน

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 225,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 215,000 ราย

ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. หลังจากลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. แต่เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้นเพียง 1.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2559 หลังจากเพิ่มขึ้น 1.4% ในเดือนก.ย.

-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานยอดค้าปลีกเดือนต.ค. ราคานำเข้าและส่งออกเดือนต.ค. และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ย. จากเฟดนิวยอร์ก เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย ต่อด้วยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. เวลา 21.15 น. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ย. เวลา 22.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ