World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 20, 2019 09:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 102.20 จุด เมื่อคืนนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอย่างหนัก หลังจากโฮม ดีโปท์ และโคห์ลส์ คอร์ป ซึ่งเป็นสองบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า

-- สื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นต่อสินค้านำเข้าจากจีน หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้า ระหว่างเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อคืนนี้

ทางด้านนายแกรี่ โคห์น อดีตหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาเชื่อว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะเดินหน้าเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในวันที่ 15 ธ.ค. หากสหรัฐและจีนยังคงไม่สามารถทำข้อตกลงการค้า

"ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดีมองว่านี่เป็นการแสดงพลัง ซึ่งเหมือนกับเกมจ้องตา ถ้าเขากระพริบตาก่อน ก็จะสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาของจีน" นายโคห์นกล่าว

ความเห็นของนายโคห์นสอดคล้องกับนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ ซึ่งคาดว่าปธน.ทรัมป์จะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนในกลางเดือนหน้า หากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง

นอกจากนี้ นายโคห์นยังเชื่อว่าสงครามการค้ากำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐ และเขาเรียกร้องให้ปธน.ทรัมป์ลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเพื่อช่วยเหลือภาคเกษตรของสหรัฐ ซึ่งถูกกระทบจากการที่จีนใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐ

-- วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งครองเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกัน ผ่านร่างกฎหมาย Hong Kong Human Rights and Democracy Act เพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงแล้ว โดยคาดว่าจะส่งให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามเพื่อบังคับใช้เร็ว ๆ นี้

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ด้วยการผ่านร่างกฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของฮ่องกง โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบในการทำลายเสรีภาพขั้นพื้นฐานและการปกครองตนเองในฮ่องกง นอกจากนี้ ร่างกฎหมายจะกำหนดให้มีการทบทวนการให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับฮ่องกง ภายใต้กฎหมายของสหรัฐ โดยการทบทวนดังกล่าวจะพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ฮ่องกงได้รับอำนาจในการปกครองตนเองอย่างเพียงพอจากจีนหรือไม่

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอาจปูทางให้สหรัฐประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อฮ่องกงและดำเนินการทางการทูตเพื่อกดดันรัฐบาลจีน

-- สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UN) ออกแถลงการณ์ตำหนิการใช้ความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของฮ่องกง พร้อมกับแสดงความกังวลว่าสถานการณ์อาจเลวร้ายลง

แถลงการณ์ระบุว่า การที่ผู้ชุมนุมใช้ความรุนแรงต่อตำรวจเป็นสิ่งที่น่าเสียใจ และไม่สามารถให้อภัยได้

นอกจากนี้ นายรูเพิร์ท โคลวิลล์ โฆษกสำนักงานสิทธิมนุษยชน ยังเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงผ่อนคลายสถานการณ์ในมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิค ซึ่งขณะนี้มีผู้ประท้วงราว 100 คนปักหลักชุมนุมอยู่ และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อผู้ชุมนุม

ทางด้านนางแคร์รี ลัม ผู้ว่าการเขตปกครองพิเศษฮ่องกง แสดงความหวังว่าเหตุการณ์รุนแรงในมหาวิทยาลัยแห่งนี้จะสามารถยุติลงได้ และนางลัมยังได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการอย่างละมุนละม่อมต่อผู้ชุมนุม

-- นายไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรค Brexit ซึ่งสนับสนุนให้อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป กล่าวว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งในวันที่ 12 ธ.ค. โดยพรรคอนุรักษ์นิยมจะมีเสียงข้างมากในสภา

อย่างไรก็ดี นายฟาราจคาดว่าประชาชนจะออกมาใช้สิทธิ์น้อยในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากพรรคการเมืองจะสามารถดึงดูดให้ประชาชนออกไปลงคะแนนเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลง

นายฟาราจกล่าวก่อนหน้านี้ว่า พรรค Brexit จะไม่ส่งสมาชิกพรรคลงแย่งเก้าอี้ในเขตเลือกตั้งที่พรรคอนุรักษ์นิยมชนะการเลือกตั้งครั้งก่อนจำนวน 317 เขต แต่จะส่งสมาชิกลงชิงเก้าอี้กับพรรคแรงงานและพรรคที่สนับสนุนให้อังกฤษรวมตัวกับสหภาพยุโรปเท่านั้น

-- แหล่งข่าวระบุว่า รัสเซียไม่มีแนวโน้มที่จะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันมากขึ้นในการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศพันธมิตรในวันที่ 5-6 ธ.ค. แต่คาดว่าจะสนับสนุนให้โอเปกและพันธมิตรขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมต่อไป

ทั้งนี้ โอเปกบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกอีก 9 ประเทศในการประชุมเมื่อเดือนก.ค.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เพื่อขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีก 9 เดือน จนถึงสิ้นเดือนมี.ค.2563 จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.ปีนี้ โดยปรับลดกำลังการผลิตในอัตราเดิมที่ระดับ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน

นอกจากนี้ ในวันที่ 5 ธ.ค. ซาอุดีอาระเบียจะประกาศโครงสร้างราคาในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) สำหรับหุ้นบริษัทซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานใหญ่ที่สุดในโลก โดยคาดว่าจะเป็นการทำ IPO ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นเกินดุลการค้ามูลค่า 1.73 หมื่นล้านเยน หรือประมาณ 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนต.ค.

รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดส่งออกในเดือนต.ค. ลดลง 9.2% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้า ร่วงลง 14.8%

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค. อยู่ที่ 103.61 ลดลง 0.2% จากเดือนก่อนหน้า

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าแล้ว ดัชนี PPI ปรับตัวลดลง 0.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4

-- สหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ ได้แก่ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และรายงานการประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) โดยมีกำหนดการเปิดเผยตรงกับช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 21 พ.ย.ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางอินโดนีเซียจะจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือนพ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย ยอดขายบ้านมือสองเดือนต.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนต.ค.จาก Conference Board


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ