ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อคืนนี้ว่า สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายในความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงการค้ากับจีน แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐก็อยู่เคียงข้างกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง
"เราขอสนับสนุนพวกเขา ผมมีความสัมพันธ์อันดีกับท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยเรากำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงการค้าที่มีความสำคัญที่สุด ซึ่งการเจรจากำลังไปได้ดี แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องการเห็นว่าสถานการณ์ในฮ่องกงดำเนินไปอย่างดีด้วย" ปธน.ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว
-- คาดตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนียังคงเดินหน้าทำนิวไฮ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า สหรัฐกำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำข้อตกลงการค้ากับจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ
-- ผลการวิเคราะห์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวที่ซบเซาในไตรมาส 4
ทั้งนี้ เฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ Nowcast แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 4
ส่วนเฟดสาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ GDPNow แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.4% ในไตรมาส 4
ด้านนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟด สาขาดัลลัส คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างมากในไตรมาส 4 เนื่องจากภาคธุรกิจพากันลดปริมาณสินค้าคงคลังจากความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศปรับซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ เป็นเงินจำนวน 43.9 ล้านปอนด์ (56.3 ล้านดอลลาร์) หรือสูงกว่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นค่าปรับจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์ โดย BoE ระบุว่า สาขาของซิตี้กรุ๊ปในอังกฤษไม่ได้รายงานงบการเงินตามกฎระเบียบในปี 2557-2561
ทั้งนี้ สำนักงานกำกับกฎระเบียบสถาบันการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ (PRA) ระบุว่า การรายงานข้อมูลของซิตี้กรุ๊ปต่อทางการอังกฤษ มีการดำเนินการที่ไม่มีประสิทธิภาพ
"ถึงแม้ซิตี้กรุ๊ปมีสภาพคล่องที่เกินดุล และมีเงินทุนตามเกณฑ์ที่กำหนด แต่ทางธนาคารประสบความล้มเหลวในการรายงานข้อมูลทางการเงินเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และมีความรุนแรง รวมทั้งอาจเกิดผลกระทบที่ลุกลามออกไป โดยรายงานบางฉบับไม่มีความน่าเชื่อถือ และไม่ได้ทำให้ PRA เห็นภาพที่ถูกต้องเกี่ยวกับสภาพคล่องและเงินทุนของทางธนาคาร" BoE ระบุ
-- บริษัทเบสท์บาย ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกสินค้าอิเลคทรอนิคส์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยกำไร รายได้ และยอดขายสูงกว่าคาดในไตรมาส 3
ทั้งนี้ เบสท์บายรายงานว่ามีกำไร 1.13 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.03 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้ 9.76 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 9.70 พันล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น 1.7% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 1.3%
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 0.7% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 733,000 ยูนิต แต่ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 709,000 ยูนิต หลังจากแตะระดับ 738,000 ยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 31.6% ในเดือนต.ค.
สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. หลังจากร่วงลง 0.7% ในเดือนก.ย. ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย. โดยการเพิ่มขึ้นของสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ เป็นสิ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่การลดลงของสต็อกสินค้าคงคลัง บ่งชี้ถึงความไม่เชื่อมั่นของภาคธุรกิจต่อยอดขายในอนาคต
ขณะเดียวกัน ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 5.7% สู่ระดับ 6.65 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค.
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่จะมีการรายงานในวันนี้ สหรัฐเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2562 (ประมาณการครั้งที่ 2) เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย
ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ระดับ 1.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.6% โดยได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐ
นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังมีกำหนดรายงานยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค. รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ เวลา 20.30 น. เช่นเดียวกัน
ต่อด้วยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. เวลา 22.00 น. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เวลา 22.30 น.