สหรัฐเผยกำไรของภาคธนาคารปรับตัวลง 7.3% ในไตรมาส 3

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 27, 2019 10:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บรรษัทประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เปิดเผยว่า กำไรของภาคธนาคารสหรัฐในช่วงไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 7.3% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

FDIC ซึ่งกำกับดูและธนาคารพาณิชย์และสถาบันเงินออม 5,256 แห่ง ระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้กำไรของภาคธนาคารสหรัฐปรับตัวลดลงในไตรมาส 3 นั้น เนื่องมาจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับสามสถาบันการเงินใหญ่คือ แบงก์ ออฟ อเมริกา, เวลส์ ฟาร์โก และเอ็มยูเอฟจี ยูเนียนแบงก์

นอกจากนี้ รายงานระบุว่า ในไตรมาส 3 มีสถาบันการเงินที่รับประกันโดย FDIC ถึง 62% ที่รายงานว่ามีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบรายปี ขณะที่มีเพียง 4% ที่รายงานว่าไม่สามารถทำกำไร

นางเฮเลนา แมควิลเลียมส์ ประธาน FDIC กล่าวว่า โดยรวมแล้ว ภาคธนาคารรายงานการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนการปล่อยกู้ ขณะที่จำนวน "ธนาคารที่มีปัญหา" นั้นยังคงอยู่ในระดับต่ำ

"ในไตรมาสนี้ เราเผชิญการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 2 ครั้ง และการที่เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแบบแบนราบ (flat yield curve) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ในด้านการขยายสินเชื่อและเงินทุน" นางแมควิลเลียมส์กล่าว

FDIC ระบุด้วยว่า รายได้จากอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดนับแต่ไตรมาส 4 ของปี 2557

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งนับตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น เนื่องมาจากความตึงเครียดทางการค้า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ