ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาด และบดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและบริษัทผลิตชิป ได้ช่วยจำกัดแรงลบในตลาด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,583.68 จุด ลดลง 119.70 จุด หรือ -0.42% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,237.18 จุด ลดลง 9.10 จุด หรือ -0.28% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,068.58 จุด ลดลง 2.88 จุด หรือ -0.03%
-- อิหร่านประกาศว่า ทางการได้พิจารณาความเป็นไปได้ 13 ทางที่จะ "สร้างฝันร้าย" ให้กับสหรัฐ หลังจากที่กองทัพสหรัฐปลิดชีพนายพลกัสซิม โซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลัง Quds Force ของอิหร่านเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดนั้น กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ยิงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้น (surface-to-surface) จำนวนหลายสิบลูก เข้าใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศอิรัก เพื่อเป็นการล้างแค้นการกระทำของสหรัฐ
-- หลังจากที่หลบเลี่ยงการให้สัมภาษณ์มาเป็นเวลานับปี ในวันนี้ นายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง ในฐานะผู้ลี้ภัยที่ทั่วโลกจับตามอง
นายกอส์นเตรียมที่จะจัดข่าวแถลงข่าวในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอน โดยสื่อคาดว่า นายกอส์นจะพูดถึงระบบกฎหมายของญี่ปุ่น หลังจากที่เขาเคยแถลงผ่านทางอีเมลครั้งแรกหลังจากหลบหนีออกจากญี่ปุ่นว่า เขาได้หลบหนีจากความอยุติธรรมและการข่มเหงทางการเมืองของญี่ปุ่น
-- กลุ่มควันจากไฟป่าออสเตรเลียได้กระจายไปยังหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงน่านฟ้าของอาร์เจนตินาและประเทศอื่นๆ โดยล่าสุดนั้น ดาวเทียมของสหรัฐสามารถจับภาพกลุ่มควันลอยเหนืออเมริกาใต้และกรุงบัวโนสไอเรส ก่อนที่จะจางไปในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซิดนีย์ของออสเตรเลียไปราว 11,793 กิโลเมตร
-- ราคาทองฟิวเจอร์ทะยานขึ้นไปยืนที่เหนือระดับ 1,600 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงเช้านี้ หลังจากอิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐในอิรัก เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ปลิดชีพผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของอิหร่าน
ณ เวลา 08.19 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. พุ่งขึ้น 26.40 ดอลลาร์ หรือ 1.68% แตะที่ระดับ 1,600.70 ดอลลาร์/ออนซ์
-- ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 4% ในการซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์ช่วงเช้านี้ หลังจากอิหร่านเปิดฉากยิงขีปนาวุธถล่มฐานทัพอากาศสหรัฐในอิรัก เพื่อตอบโต้สหรัฐที่ปลิดชีพผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของอิหร่าน ณ เวลา 08.04 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.พ. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 2.74 ดอลลาร์ หรือ 4.37% แตะที่ระดับ 65.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
-- นางแวนดา วาซเกซ ผู้ว่าการเปอร์โตริโก ประกาศภาวะฉุกเฉิน และระดมความช่วยเหลือจากกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 100 ปี
ทั้งนี้ เปอร์โตริโกเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวหลายครั้งเมื่อวานนี้ โดยครั้งใหญ่ที่สุดมีความรุนแรง 6.4 แมกนิจูด ซึ่งมีความรุนแรงที่สุดในรอบ 102 ปี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และประชาชน 346 คนไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่กระแสไฟฟ้าดับในวงกว้าง และทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำดื่ม โดยแผ่นดินไหวดังกล่าวทำให้เกิดคลื่นสึนามิขนาดเล็กด้วย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย., ญี่ปุ่นเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค., เยอรมนีเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย., ฝรั่งเศสเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.จากฮาลิแฟกซ์, อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยดุลการค้าเดือนพ.ย., จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., เยอรมนีเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., อียูเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย. และสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์