World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 15 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 15, 2020 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ หลังจากสื่อรายงานว่า สหรัฐจะไม่ปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม จนกว่าจะถึงวันหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย. ซึ่งรายงานข่าวดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับทิศทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ภาษีนำเข้ามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐเรียกเก็บจากจีนในปัจจุบันนั้น จะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนกระทั่งหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.ปีนี้ ส่วนการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติมในวันข้างหน้านั้น จะขึ้นอยู่กับว่าจีนจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงการค้าเฟสแรกหรือไม่

รายงานข่าวระบุว่า ทั้งจีนและสหรัฐมีความเข้าใจตรงกันว่า หลังจากการลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกที่ทำเนียบขาวในวันพุธที่ 15 ม.ค.เสร็จสิ้นลงไม่เกิน 10 เดือน สหรัฐจึงจะเริ่มทำการทบทวนความคืบหน้าและความเป็นไปได้ในการปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติมอีก 3.60 แสนล้านดอลลาร์

-- นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยก่อนที่สหรัฐและจีนจะลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกในวันนี้ว่า สหรัฐจะยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นการทำข้อตกลงการค้าเฟสสอง

นายมนูชินเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าสินค้าจีน หากสองประเทศสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสสองได้อย่างรวดเร็ว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ มีกำหนดลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรกร่วมกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนที่ทำเนียบขาวในวันนี้เวลา 11.30 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 23.30 น.ตามเวลาไทย โดยพิธีลงนามดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่วุฒิสภาสหรัฐจะเริ่มกระบวนการพิจารณาถอดถอนปธน.ทรัมป์ในสัปดาห์หน้า

-- เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้สูงกว่าคาดในไตรมาส 4

ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า ธนาคารมีกำไร 2.57 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.36 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.79 หมื่นล้านดอลลาร์

-- ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ประบุว่า ธนาคารมีกำไรที่ระดับ 1.90 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.84 ดอลลาร์/หุ้น

นอกจากนี้ ธนาคารมีรายได้ 1.838 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.785 หมื่นล้านดอลลาร์

-- สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เจ้าหน้าที่ด้านการบินของอิหร่าน ยูเครน และแคนาดาได้จัดการประชุมที่กรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการสอบสวนกรณีการที่เครื่องบินยูเครนตกที่อิหร่านในสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือดังกล่าว

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี ฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่านออกมายอมรับเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า กองทัพอิหร่านได้ยิงเครื่องบินโดยสารของยูเครนตกโดยไม่เจตนา ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องจำนวน 176 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยผู้โดยสารบนเครื่องส่วนมากเป็นชาวอิหร่านและชาวแคนาดาเชื้อสายอิหร่าน

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ย.

ดัชนี CPI ทั่วไปยังคงได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงานและอาหาร

เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ทั่วไปเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนพ.ย.

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สหรัฐมีกำหนดรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค. เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เตรียมรายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ เวลา 22.30 น.

หลังจากนั้น ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book เวลา 02.00 น. ในช่วงเช้าวันที่ 16 ม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ