World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 28 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 28, 2020 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลง 453.93 จุด หรือ 1.57% เมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น หุ้นกลุ่มสายการบิน โรงแรม และสถานกาสิโน ต่างก็ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากรัฐบาลจีนขยายเวลาวันหยุดในเทศกาลตรุษจีนและมีคำสั่งห้ามทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของสื่อจีนว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 106 รายแล้วในขณะนี้

ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาในจีนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ระบุเมื่อวานนี้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 81 ราย

-- สำนักงานสาธารณสุขของรัฐแมรีแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า พลเมืองในรัฐแมรีแลนด์คนหนึ่งกำลังเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อประเมินว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ส่วนในรัฐเวอร์จิเนียนั้น มหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ยืนยันว่า นักศึกษาคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยกำลังรอผลการตรวจร่างกาย หลังจากนักศึกษาผู้นี้มีอาการคล้ายติดเชื้อไวรัสดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขฯ ได้แถลงเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า พลเมืองรัฐแมรีแลนด์ผู้นี้ยังคงมีสภาวะร่างกายที่ดี และรอผลการตรวจจากห้องแล็บของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC)

-- เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขรัฐบาวาเรียของเยอรมนียืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายแรกเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า ชายที่ติดเชื้อดังกล่าวมาจากเมืองสตาร์นเบิร์ก ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองมิวนิคไปทางตะวันเฉียงใต้ราว 30 กิโลเมตร ทั้งนี้ คณะทำงานด้านโรคติดเชื้อของสำนักงานความปลอดภัยด้านสุขภาพและอาหารของรัฐบาวาเรียระบุว่า ผู้ป่วยดังกล่าวได้ถูกแยกตัวเพื่อเฝ้าติดตามอาการ ขณะที่เขายังคงอยู่ในอาการที่ดี ส่วนผู้ที่ติดต่อใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อดังกล่าวนั้นได้รับการตรวจร่างกายและอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว พร้อมทั้งได้รับแจ้งให้ทราบถึงอาการที่เป็นไปได้ มาตรการด้านสุขอนามัย และช่องทางการแพร่เชื้อ

-- บรรดาธนาคารในฮ่องกง รวมถึงเครดิต สวิส และยูบีเอส กรุ๊ป ได้แจ้งให้พนักงานในฮ่องกงทำงานจากที่บ้านเป็นเวลา 2 สัปดาห์ หากพวกเขาเพิ่งเดินทางกลับจากจีน ขณะที่ธนาคารทั่วโลกได้เพิ่มมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

เครดิต สวิสแจ้งกับพนักงานว่า พวกเขาควรหารือกับผู้จัดการแผนกและฝ่ายทรัพยากรบุคคลก่อนเดินทางกลับไปทำงานหลังจากครบกำหนดเวลาดังกล่าว โดยบุคคลใดที่มีอาการคล้ายเป็นไข้จะต้องทำงานจากที่บ้านจนกว่าแพทย์จะรับรองว่าบุคคลนั้นหายป่วยแล้ว จึงจะกลับไปทำงานได้ ขณะที่ทั้งเครดิต สวิสและยูบีเอส ยังได้สั่งห้ามพนักงานเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ใกล้เคียงของจีนซึ่งเป็นต้นตอการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาด้วย ทางด้านธนาคารดอยซ์ แบงก์ แจ้งพนักงานในฮ่องกงทำงานที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน หลังเดินทางกลับจากจีน

-- สื่อรายงานว่านายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ จะหารือกับบรรดารัฐมนตรีอาวุโสในวันนี้เพื่อตัดสินใจว่า จะอนุญาตให้มีการใช้อุปกรณ์ที่ผลิตโดยบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีของจีนในเครือข่ายการสื่อสารไร้สายระบบ 5G ของอังกฤษในอนาคตหรือไม่

ทั้งนี้ นายจอห์นสันเผชิญแรงกดดันจากสหรัฐให้สกัดกั้นหัวเว่ย เนื่องจากวิตกว่าการอนุญาตให้หัวเว่ยเข้าถึงระบบ 5G อาจถูกจีนใช้เพื่อการจารกรรมข้อมูล และจะส่งผลกระทบต่อการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองระหว่างสหรัฐและอังกฤษ

-- กระทรวงสาธารณสุขกัมพูชาแถลงว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อดังกล่าวเป็นชายชาวจีนวัย 60 ปีที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นของจีน

อย่างไรก็ดี สมาชิกอีก 3 รายในครอบครัวของเขาไม่มีการติดเชื้อแต่อย่างใด

-- กระทรวงศึกษาธิการของจีนประกาศวานนี้ว่า การสอบวัดผลประเมินความเชี่ยวชาญด้านภาษาอังกฤษซึ่งนักเรียนชาวจีนต้องเข้าสอบก่อนที่จะสมัครเรียนต่อในมหาวิทยาลัยต่างชาตินั้น จะถูกยกเลิกทั่วประเทศในเดือนหน้า หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ การสอบที่ถูกยกเลิกในเดือนหน้า ได้แก่ การสอบ IELTS, TOEFL, GRE และ GMAT โดยการสอบ IELTS ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 31 ม.ค.ก็ได้ถูกยกเลิกเช่นกัน

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือใดๆ ที่จำเป็นกับจีนในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

"เรากำลังติดต่ออย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ขณะนี้สหรัฐมีผู้ป่วยติดเชื้อจำนวนไม่มาก แต่เราก็กำลังจับตาอย่างระมัดระวัง และเรายังได้เสนอความช่วยเหลือที่จำเป็นกับจีน และท่านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง โดยผู้เชี่ยวชาญของเรายอดเยี่ยมมาก" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

-- รัฐบาลสหรัฐเตรียมส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปยังเมืองอู่ฮั่นของจีนในวันนี้ เพื่ออพยพเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลสหรัฐและครอบครัวจำนวนราว 30 กว่าคนกลับสหรัฐ โดยเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นเครื่องโบอิ้ง 767 โดยมี 240 ที่นั่ง

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เครื่องบินลำดังกล่าวจะไม่บินตรงไปยังนครซาน ฟรานซิสโกตามที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุก่อนหน้านี้ แต่จะลงจอดที่สนามบินบางแห่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงวานนี้ว่า นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ได้เดินทางถึงประเทศจีนแล้ว เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ นายแพทย์ทีโดรสจะประชุมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของจีนเพื่อสนับสนุนมาตรการรับมือเชื้อไวรัสโคโรนาของจีน และเพื่อให้ทีมงานของ WHO เข้าใจสถานการณ์ล่าสุด และยกระดับความร่วมมือกับจีนในการหาทางป้องกันการแพร่ระบาดต่อไป

-- นายแพทย์พอล สตอฟเฟิลส์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ของบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) กล่าวว่า เขาเชื่อว่าบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนในช่วงหลายเดือนข้างหน้าสำหรับป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

อย่างไรก็ดี นายแพทย์สตอฟเฟิลส์ระบุว่า ทางบริษัทอาจต้องใช้เวลาถึง 1 ปีก่อนที่จะสามารถนำวัคซีนดังกล่าวออกสู่ตลาด

"เรามีนักวิทยาศาสตร์หลายสิบคนที่กำลังทำงานในโครงการดังกล่าว ดังนั้นเราเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถผลิตวัคซีนที่ป้องกันไวรัสนี้ได้ และมีประสิทธิภาพในระยะยาว" นายแพทย์สตอฟเฟิลส์กล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าววานนี้ว่า ทำเนียบขาวจะเปิดเผยแผนสันติภาพตะวันออกกลางในวันนี้เวลา 12.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 24.00 น.ตามเวลาไทย

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อผู้สื่อข่าว หลังจากที่เขาได้ต้อนรับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่นักลงทุนจับตาในวันนี้ได้แก่ สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากสถาบัน GfK และสหรัฐเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 30 ม.ค.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ