World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 30 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 30, 2020 09:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุด คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงยืนยันว่า ณ วันพุธที่ 29 ม.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 170 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 7,711 ราย

แถลงการณ์ของ NHC ระบุว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่อยู่ในขั้นวิกฤตจำนวน 1,370 ราย และผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าว อยู่ที่ 12,167 ราย

-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ หลังจากที่ได้คงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งที่แล้ว และปรับลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในปีที่แล้ว

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า นโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสมต่อการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นในอัตราปานกลาง แต่การลงทุนในภาคธุรกิจและการส่งออกยังคงอ่อนแอ

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) ว่า เฟดเชื่อมั่นว่านโยบายการเงินของเฟดอยู่ในสถานะที่เหมาะสมต่อการสนับสนุนเงินเฟ้อให้ดีดตัวขึ้นสู่เป้าหมายที่ระดับ 2% และเหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันของสหรัฐ

ส่วนกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นั้น นายพาวเวลกล่าวว่า นี่เป็นประเด็นที่น่ากังวล มีความเป็นไปได้ว่าการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสชนิดนี้จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศจีนและทั่วโลก เมื่อพิจารณาจากการใช้มาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางและบริษัทหลายแห่งต้องระงับการดำเนินงานบางส่วนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส พร้อมกับกล่าวว่า เฟดจะจับตาสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

-- รัฐบาลฮ่องกงต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในการรับมือกับไวรัสโคโรนาที่กำลังแพร่ระบาด และการที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลตลอดช่วงการประท้วงกว่า 7 เดือนที่ผ่านมานั้น ทำให้การทำงานของรัฐบาลยากยิ่งขึ้น โดยล่าสุด นางแคร์รี ลัม ผู้นำเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ต้องยกเลิกแผนการสร้างการสถานที่กักกันผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่ผู้ประท้วงจุดไฟเผาอาคารดังกล่าว

นอกจากนี้ นางลัมยังได้ออกมาโต้ข่าวลือว่า รัฐบาลพยายามขัดขวางการส่งหน้ากากอนามัยมายังฮ่องกง

-- แอปเปิล อิงค์ สั่งปิดร้านค้าเพิ่มอีกในจีน หลังจากที่เชื้อไวรัสโคโรนาแพร่ระบาดหนัก โดยเมื่อวานนี้ เว็บไซต์ของทางบริษัทรายงานว่า ร้านแอปเปิล สโตร์ ในเมืองหนานจิงและเมืองฝูโจวปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อควบคุมการระบาดของโรค โดยจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 3 ก.พ.

ก่อนหน้านี้ นายทิม คุก ซีอีโอของแอปเปิลได้ออกมาเปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทปิดให้บริการร้านแอปเปิลในเมืองชิงเต่า และจะเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 4 ก.พ.

-- กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า พบชาวญี่ปุ่น 3 รายที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ ชาวญี่ปุ่น 3 รายที่ได้รับการตรวจวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนานั้น อยู่ในกลุ่มเดียวกับชาวญี่ปุ่นจำนวน 206 คนที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นเมื่อวานนี้ ด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ส่งไปรับพลเมืองชาวญี่ปุ่น

-- รัฐสภายุโรปลงคะแนนเสียงท่วมท้น 621-49 ให้ความเห็นชอบต่อข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันนี้ ขณะที่งดออกเสียง 13 เสียง

ทั้งนี้ อังกฤษมีกำหนดแยกตัวอย่างเป็นทางการจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 31 ม.ค.เวลา 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือวันที่ 1 ก.พ.เวลา 06.00 น.ตามเวลาไทย และจะเริ่มต้นช่วงการเปลี่ยนผ่าน 11 เดือนจนถึงสิ้นปีนี้ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำการเจรจาในด้านต่างๆ นับตั้งแต่การค้าไปจนถึงความมั่นคง

-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า WHO จะจัดการประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินในวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และเพื่อที่จะตัดสินใจว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลกหรือไม่

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค. และอัตราว่างงานเดือนธ.ค. ด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขประมาณการขั้นต้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนม.ค. อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ