World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 31 มกราคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday January 31, 2020 08:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก" หลังจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

WHO ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวาระฉุกเฉินครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวาในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า การประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก (Public Health Emergency of International Concern - PHEIC) นั้น จะช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

-- ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือน อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ณ เวลา 00.03 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.560% สวนทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนซึ่งดีดตัวสู่ระดับ 1.567% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับ 2.030%

-- จับตาตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ คาดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กซึ่งปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อในช่วงท้ายตลาด หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก เพื่อเปิดทางสู่ความร่วมมือในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และโคคา โคล่า

-- ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงินเมื่อคืนนี้ โดย BoE มีมติ 7-2 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.75%

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) 7 รายลงมติให้ BoE คงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ แต่อีก 2 รายลงมติให้ BoE ปรับลดอัตราดอกเบี้ย

ก่อนหน้านี้ ตลาดการเงินมองว่า BoE มีโอกาส 50/50 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการ BoE คนปัจจุบัน ก่อนที่จะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ประธานสำนักงานกำกับตลาดการเงินอังกฤษ (FCA) วัย 60 ปี จะเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ BoE คนใหม่

-- สำหรับสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงยืนยันว่า ณ วันพฤหัสบดีที่ 30 ม.ค. จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 213 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 9,692 ราย

ด้านศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) ยืนยันว่า พบการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากคนสู่คนเป็นครั้งแรกในสหรัฐ โดยผู้ป่วยรายนี้เป็นสามีของหญิงที่เดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น

CDC แถลงว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นชาวเมืองชิคาโก ติดเชื้อมาจากภรรยาวัย 60 ปีซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกในรัฐอิลลินอยส์ หลังเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของไวรัสโคโรนาในจีน เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เป็นสามีไม่ได้เดินทางไปด้วยแต่อย่างใด

-- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อคืนนี้ว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมอพยพประชาชนออกจากเมืองอู่ฮั่นครั้งใหม่ โดยจะส่งเครื่องบินไปรับชาวอเมริกันในวันที่ 3 ก.พ.

แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า สหรัฐจะส่งเครื่องบินจำนวนกี่ลำไปรับชาวอเมริกันจำนวนเท่าใด แต่ระบุว่า ผู้ที่จะโดยสารเครื่องบินกลับสหรัฐจะต้องผ่านการคัดกรอง และตรวจสุขภาพ

สหรัฐได้ส่งเครื่องบินรับชาวอเมริกันกลุ่มแรกจำนวนราว 200 รายกลับประเทศในเช้าเมื่อวานนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการทูตสหรัฐและครอบครัว โดยทั้งหมดถูกกักตัวที่ฐานทัพอากาศในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อเฝ้าดูอาการที่อาจมีการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

-- นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้บริษัทต่างๆทำการประเมินครั้งใหม่ต่อเครือข่ายห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะทำให้บริษัทเหล่านี้หันมาจ้างงานในสหรัฐ

"ความจริงก็คือ การแพร่ระบาดได้ทำให้ภาคธุรกิจกลับมาพิจารณาทบทวนห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งสิ่งนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะต้องคำนึงถึง ดังนั้นผมจึงคิดว่าเรื่องนี้จะทำให้การจ้างงานกลับสู่อเมริกาเหนือ บางส่วนมายังสหรัฐ บางส่วนไปยังเม็กซิโก" นายรอสส์กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทชั้นนำจำนวนมากพากันปิดการดำเนินงานในจีน ขณะที่สายการบินระงับเที่ยวบินไปยังจีน หลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่น

-- บริษัทโคคา โคล่า เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีรายได้ 9.07 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.89 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ บริษัทมีกำไรที่ระดับ 47 เซนต์/หุ้น สูงกว่าในช่วงเดียวกันของปี 2561 ที่ระดับ 20 เซนต์/หุ้น

-- บริษัทแบล็คสโตน กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ทางเลือกขนาดใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยบริษัทมีกำไรพุ่งขึ้น 27% สู่ระดับ 72 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 67 เซนต์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่ระดับ 5.711 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.54 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีการขยายตัวในระดับเดียวกับไตรมาส 3 ขณะที่ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐ

เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 1 มีการเติบโต 3.1%

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-บริการเดือนม.ค. เวลา 08.00 น. ตามเวลาไทย

ทางการฝรั่งเศสเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 เวลา 13.30 น. ขณะที่ยูโรโซนเตรียมรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 เวลา 17.00 น.

ส่วนสหรัฐมีกำหนดการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. เวลา 20.30 น. ต่อด้วยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 22.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ