World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 4, 2020 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 143.78 จุด หรือ 0.51% เมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตสหรัฐ และราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ทรุดตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

-- หุ้นเอเชียเปิดบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังคงวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน โดยตลาดหุ้นโตเกียวและซิดนีย์เปิดตลาดปรับตัวลง ขณะที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้นจากแรงช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา ส่วนตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ก็ยังคงเผชิญแรงกดดัน โดยราคาน้ำมันดิ่งลงราว 3%

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันจันทร์ที่ 3 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 64 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 425 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3,235 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็น 20,438 ราย

รายงานของ NHC ระบุว่า ผู้ที่เสียชีวิตรายใหม่ทั้งหมด 64 ราย ณ วันจันทร์ที่ 3 ก.พ. นั้น เป็นผู้ป่วยในมณฑลหูเป่ย ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากมีอาการดีขึ้นแล้วนั้น อยู่ที่ 632 ราย

-- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรส ในวันนี้ เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าวันพุธ เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย

การกล่าวสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์ซึ่งเป็นไปตามคำเชิญของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐนั้น เป็นการแถลงนโยบายต่อวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเป็นครั้งที่ 3 ของเขา และได้รับความสนใจจากสื่อทั่วโลก โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ต่อชาวสหรัฐทั่วประเทศ ขณะที่สำนักข่าว CNN จะออกอากาศสดไปทั่วโลกเช่นกัน

-- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังประเมินว่าจะปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ลงหรือไม่ อันเป็นผลจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่ผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวของรัฐบาลจีนก็กำลังพิจารณาที่จะประกาศภาวะสุดวิสัยที่ไม่สามารถส่งมอบก๊าซให้กับลูกค้าตามสัญญา

นอกจากนี้ ทางการจีนยังคงหวังว่าสหรัฐจะยอมยืดหยุ่นข้อสัญญาบางส่วนในข้อตกลงการค้าเฟสแรก ขณะที่ระบบเศรษฐกิจจีน 2 ใน 3 ส่วนยังคงปิดทำการในสัปดาห์นี้ เนื่องจากหลายมณฑลดำเนินมาตรการพิเศษโดยขยายวันหยุดหลังเทศกาลตรุษจีนออกไปอีกเพื่อช่วยควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

-- ขณะที่มีความไม่แน่นอนว่าจีนจะสามารถซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐได้มากถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ตามสัญญาหรือไม่นั้น เทรดเดอร์รายหนึ่งของบริษัทอาร์เชอร์-แดเนียลส์-มิดแลนด์เปิดเผยว่า จีนจะทำตามสัญญาในข้อตกลงการค้าเฟสแรกกับสหรัฐ โดยจะซื้อสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ของสหรัฐในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จีนหวังว่าสหรัฐจะยืดหยุ่นข้อตกลงบางส่วนให้กับจีน ขณะที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง ทางด้านสหรัฐระบุว่ายังไม่ได้รับการเรียกร้องดังกล่าวจากจีน

-- คะแนนนิยมของนายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียร่วงลง 8 จุด สู่ระดับ 37% อันเป็นผลจากปัญหาของรัฐบาลในการรับมือกับไฟป่า, เรื่องอื้อฉาว และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยปัญหาหมอกควันพิษในซิดนีย์และเมลเบิร์นได้เพิ่มแรงกดดันให้นายมอร์ริสันยกเลิกนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมถ่านหิน และรัฐบาลมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายยอดเกินดุลงบประมาณ เนื่องจากวิกฤตไฟป่าและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ รัฐมนตรีรายหนึ่งในรัฐบาลของนายมอร์ริสันเพิ่งลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำการที่ละเมิดมาตรฐานการเป็นรัฐมนตรี

-- หุ้นเทสลาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 เมื่อคืนนี้ และทะยานขึ้นเป็นวันที่ 5 โดยได้แรงหนุนจากการที่บริษัทพานาโซนิคซึ่งผลิตแบตเตอรีให้กับเทสลาระบุว่า ธุรกิจได้พลิกกลับมามีความสามารถในการทำกำไรในไตรมาส 4/2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค. ซึ่งเป็นผลจากการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของเทสลา

นอกจากนี้ ราคาหุ้นเทสลายังได้แรงหนุนจากการที่นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นเทสลาขึ้นจาก 556 ดอลลาร์ เป็น 808 ดอลลาร์ด้วย โดยสะท้อนถึงการขยายตัวของรายได้จากรถรุ่น Model S และ Model X รวมทั้งความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับรถรุ่น Model 3 โดยในปีนี้ หุ้นเทสลาพุ่งขึ้น 79% แล้ว และมูลค่าหุ้นพุ่งขึ้น 3 เท่านับตั้งแต่เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ในกลางเดือนต.ค. 2562

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค.จากไฉซิน, ฝรั่งเศสเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, เยอรมนีเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, อียูเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต, อังกฤษเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ดุลการค้าเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากมาร์กิต และ ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ