World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 19, 2020 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ 165.89 จุด เมื่อคืนนี้ หลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ในจีน อาจทำให้รายได้ของบริษัทไม่เป็นไปตามเป้า โดยการคาดการณ์ดังกล่าวของแอปเปิลทำให้นักลงทุนกังวลว่า ผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อาจฉุดผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายอื่นๆ และเศรษฐกิจทั่วโลก

-- ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือน อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่นักลงทุนพากันซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันอังคารที่ 18 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 136 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้นเป็น 2,004 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 1,749 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 74,185 ราย

NHC ระบุว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตรายใหม่จำนวน 136 ราย ณ วันอังคารที่ 18 ก.พ. นั้น มี 132 รายอยู่ในมณฑลหูเป่ย, 1 รายอยู่ในมณฑลเฮยหลงเจียง, 1 รายอยู่ในมณฑลชานตง, 1 รายอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง และ 1 รายอยู่ในมณฑลกุ้ยโจว ส่วนผู้ป่วยติดเชื้อที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากมีอาการดีขึ้นแล้วนั้น อยู่ที่ 14,376 ราย

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน กล่าวในการสนทนาทางโทรศัพท์กับนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษเมื่อวานนี้ว่า มาตรการของจีนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังมีความคืบหน้า ขณะที่การต่อสู้กับไวรัสดังกล่าวกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาที่สำคัญ

ปธน.สี จิ้นผิงยังระบุว่า จีนจะยังคงสามารถบรรลุเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ แม้เผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

-- นายโอลิวิเยร์ เวอรอง รมว.สาธารณสุขฝรั่งเศส กล่าวว่า มีความเสี่ยงอย่างมากที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะลุกลามเป็นการแพร่ระบาดไปทั่วโลก

นายเวอรองกล่าวว่า แนวโน้มที่เชื้อไวรัสโควิด-19 จะแพร่ระบาดไปทั่วโลกนับเป็นความเสี่ยงที่เป็นไปได้ และรัฐบาลฝรั่งเศสกำลังดำเนินการต่อสู้กับเชื้อไวรัสตามสมมติฐานดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ WHO ประกาศให้การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลกในวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

-- นายสก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวว่า ญี่ปุ่นใกล้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของเชื้อไวรัสโควิด-19

"เราจำเป็นที่จะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด เนื่องจากญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าในช่วง 4 วันที่ผ่านมา" นายก็อตต์ลิเอ็บกล่าว

ขณะนี้ ญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 59 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

"ถ้าคุณเห็นการแพร่ระบาดแบบนี้ในประเทศอื่น ก็เป็นเรื่องน่าวิตกอย่างมากว่า เราอาจจะไม่สามารถควบคุมเชื้อไวรัสไม่ให้ลุกลามไปทั่วโลก" นายก็อตต์ลิเอ็บกล่าว

-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) เปิดเผยว่า ทางการสหรัฐไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารหรือลูกเรือจากเรือสำราญไดมอนด์ พริสเซสที่ได้รับการกักตัวในญี่ปุ่น เดินทางกลับเข้าสหรัฐอย่างน้อย 14 วัน ขณะที่ยังมีผู้โดยสารกว่า 100 คนตกค้างอยู่เรือลำดังกล่าว รวมถึงผู้ที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของญี่ปุ่น

CDC ระบุว่า ผู้โดยสารทั้งหมดจะต้องรอให้ผ่านระยะเวลา 14 วันหลังออกจากเรือ จึงจะเดินทางเข้าสหรัฐได้ โดยจะต้องไม่มีอาการป่วย หรือติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

ทั้งนี้ CDC ระบุว่า แม้จะมีการกักตัวบนเรือสำราญแล้ว แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่เชื้อจะแพร่จากคนสู่คนได้ และสหรัฐมองว่าอัตราการติดเชื้อบนเรือยังคงอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยง

-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ในไม่ช้า ประเทศในแอฟริกาและอเมริกาจะสามารถตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยได้รับการสนับสนุนจาก WHO

"ภายในปลายสัปดาห์นี้ 40 ประเทศในแอฟริกา และ 29 ประเทศในอเมริกาจะมีความสามารถในการตรวจสอบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยรู้ผลภายใน 24-48 ชั่วโมง" นายแพทย์ทีโดรสกล่าว

นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า ขณะนี้ WHO ได้จัดส่งอุปกรณ์การป้องกันตนเองต่อ 21 ประเทศแล้ว และจะจัดส่งไปยังอีก 106 ประเทศในอีกไม่กี่สัปดาห์

-- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ออกรายงานระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะเพิ่มแรงกดดันต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก โดยเฉพาะในภาคการค้าและการท่องเที่ยว

"เศรษฐกิจในภูมิภาคได้ชะลอตัวลงอย่างมากในปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการค้าโลก" รายงานระบุ

นอกจากนี้ มูดี้ส์ยังเตือนเกี่ยวกับภาวะชะงักงันด้านห่วงโซ่อุปทาน ขณะที่โรงงานจำนวนมากในจีนปิดทำการ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

มูดี้ส์ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในปีนี้ สู่ระดับ 5.2% จากเดิมที่ระดับ 5.8% โดยระบุว่า "การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่รุนแรง แต่กินเวลาไม่มาก ขณะที่ผลกระทบลุกลามต่อเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค"

มูดี้ส์ระบุว่า มาเก๊าและฮ่องกงจะถูกกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับจีน

-- นายริชี ซูนัค รัฐมนตรีคลังอังกฤษ ระบุว่า เขาจะยื่นงบประมาณเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันที่ 11 มี.ค.ตามกำหนด

งบประมาณดังกล่าวถือเป็นงบประมาณฉบับแรกของอังกฤษนับตั้งแต่ที่แยกตัวอย่างเป็นทางการออกจากสหภาพยุโรปในเดือนม.ค.

"ผมกำลังจัดเตรียมงบประมาณที่จะยื่นต่อรัฐสภาในวันที่ 11 มี.ค.ตามสัญญาที่เราให้ไว้กับชาวอังกฤษ เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศ" ข้อความในทวิตเตอร์ของนายซูนัคกล่าว

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายซาจิด จาวิด ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลังอังกฤษ ซึ่งทำให้มีความวิตกกันว่ารัฐบาลอาจประสบความล่าช้าในการยื่นงบประมาณเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

-- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป (ZEW) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีดิ่งลงสู่ระดับ 8.7 ในเดือนก.พ. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 21.0 จากระดับ 26.7 ในเดือนม.ค.

ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความวิตกที่ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะกระทบต่อการค้าทั่วโลก

นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ร่วงลงสู่ระดับ -15.7 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -10.5 จากระดับ -9.5 ในเดือนม.ค.

-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ร่วงลง 12.5% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 8.248 แสนล้านเยน (7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวลงในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 18% ในเดือนพ.ย.

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังญี่ปุ่นก็ได้เปิดเผยในรายงานเบื้องต้นวันนี้ว่า ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนม.ค.ที่ระดับ 1.31 ล้านล้านเยน (1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)

รายงานของกระทรวงฯระบุว่า ยอดส่งออกในเดือนม.ค.ลดลง 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนม.ค.ร่วงลง 3.6%

-- สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านลดลง 1 จุด สู่ระดับ 74 ในเดือนก.พ. แต่ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542

NAHB ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นยังคงได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส, ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับต่ำ และภาวะขาดแคลนสต็อกบ้านในตลาด

ผู้สร้างบ้านในภาคใต้มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจมากที่สุด ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ส่วนผู้สร้างบ้านในภาคตะวันตก และมิดเวสต์มีความเชื่อมั่นลดลง

-- กระทรวงแรงงานและสวัสดิการฮ่องกงเปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของฮ่องกงเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.4% ในช่วงเดือนพ.ย.-ม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ขณะที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

"ตลาดแรงงานจะเผชิญแรงกดดันมากขึ้นในระยะใกล้ ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภาคที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค และการท่องเที่ยว" นายลอว์ ชี-กวาง รมว.แรงงานฮ่องกง กล่าว

อัตราการว่างงานโดยรวมในภาคการบริโภคและการท่องเที่ยวอยู่ที่ระดับ 5.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ในวันนี้ อียูเตรียมเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนธ.ค. อังกฤษจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค. ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. และรายงานการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ตรงกับช่วงเช้าวันที่ 20 ก.พ. ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค. ออสเตรเลียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค. ด้านธนาคารกลางจีนจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ประจำเดือนก.พ. เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จาก GfK อังกฤษเตรียมเผยยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนก.พ.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนม.ค.จาก Conference Board และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ