สำนักงานบริการตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศร่วงลงอย่างมากเหลือเพียงไม่ถึง 1 ล้านคนในเดือนก.พ. หรือร่วงลงกว่า 50% เมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2.37 ล้านคน สถานการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
สนง.ตรวจคนเข้าเมืองระบุว่า นักท่องเที่ยวจากจีน ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งถูกตรวจพบมาตั้งแต่เดือนธ.ค. ที่เมืองอู่ฮั่น เหลือเพียงหลัก 60,000 คน นับเป็นตัวเลขที่ลดลงกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับจำนวนนักท่องเที่ยวในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว ซึ่งมีอยู่ราว 658,000 คน
เมื่อพิจารณาจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นต่อวันพบว่า ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นเพียง 35,000 คน ในเดือนก.พ. 2563 เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. 2562 ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศวันละประมาณ 85,000 คน
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ข้อมูลนี้ถูกนำมาเผยแพร่ระหว่างการประชุมคณะกรรมธิการรัฐสภา หลังจากที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศมาตรการควบคุมการเดินทางจากจีนและเกาหลีใต้ได้เพียง 1 วัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่ารัฐบาลดำเนินการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างล่าช้า
ข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ภาคการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่นักท่องเที่ยวจากจีนและเกาหลีใต้เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่สุดที่เดินทางเข้าญี่ปุ่น โดยคิดเป็นสัดส่วนกว่า 40% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดในปี 2562