World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 มีนาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 9, 2020 09:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 1,000 จุดในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้

ณ เวลา 07.28 น. ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ร่วงลง 1,089 จุด หรือ 4.22% แตะที่ 24,700 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงอย่างหนักในช่วงเช้านี้ หลังจากซาอุดีอาระเบียประกาศลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเริ่มต้นของการทำสงครามราคาน้ำมัน หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ณ เวลา 09.00 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาด NYMEX ลดลง -10.72 ดอลลาร์ หรือ 25.97% แตะที่ 30.56 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ซาอุดีอาระเบียวางแผนปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันกว่า 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเม.ย. หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และพันธมิตรที่นำโดยรัสเซีย ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับลดการผลิตน้ำมันในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทางด้านอารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ปรับลดราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับน้ำมันดิบทุกเกรดที่ส่งมอบให้กับลูกค้าทุกประเทศ

การประชุมนโยบายด้านการผลิตน้ำมันระหว่างโอเปกและพันธมิตรที่นำโดยรัสเซียได้เสร็จสิ้นลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยโอเปกได้เสนอให้ปรับลดการผลิตน้ำมันลงอีก 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ไปจนถึงสิ้นปีนี้ แต่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมในขณะนี้ต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2

-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 หดตัวลง 7.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า GDP ไตรมาส 4 หดตัวลง 6.3%

หากเทียบเป็นรายไตรมาส GDP ไตรมาส 4 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 1.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่า หดตัวลง 1.6%

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 8 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 22 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น 3,119 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 40 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 80,735 ราย

-- ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในสหรัฐ อยู่ที่ 511 รายแล้ว ขณะที่มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 21 ราย

รายงานข่าวระบุว่า รัฐวอชิงตันเป็นรัฐที่มีผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุด โดยมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 116 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย ตามมาด้วยรัฐนิวยอร์กที่มีผู้ติดเชื้อ 106 ราย และรัฐแคลิฟอร์เนีย 102 ราย

ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วในหลายรัฐ ไม่ว่าจะเป็นแคลิฟอร์เนีย ฟลอริดา อินเดียนา เคนทักกี แมรีแลนด์ ยูทาห์ วอชิงตัน นิวยอร์ก และโอเรกอน

-- คณะเสนาธิการร่วม (JCS) แห่งเกาหลีใต้ แถลงในวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดไม่ทราบชนิดจำนวน 3 ลูกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น โดยจรวดดังกล่าวยิงมาจากเมืองซอนด๊อค ในจังหวัดฮัมยองใต้

ทั้งนี้ JCS ระบุว่า กองทัพเกาหลีใต้กำลังจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าเกาหลีเหนือจะยิงจรวดเพิ่มอีก

ทางด้านหน่วยป้องกันชายฝั่งของญี่ปุ่นเชื่อว่า เกาหลีเหนือยิงจรวดลงสู่ทะเลญี่ปุ่น พร้อมประกาศเตือนเรือทุกลำที่กำลังแล่นอยู่ในน่านน้ำดังกล่าว

-- นายเท็ด ครูซ วุฒิสมาชิกสหรัฐจากรัฐเท็กซัส สังกัดพรรครีพับลิกัน ประกาศกักตัวเอง 14 วัน หลังทราบว่าตนได้มีการพูดคุยและจับมือกับผู้เข้าร่วมประชุม Conservative Political Action Conference (CPAC) รายหนึ่ง ซึ่งภายหลังได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น หลังสหภาพอนุรักษ์นิยมอเมริกา (ACU) เปิดเผยว่า หนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุม Conservative Political Action Conference (CPAC) เมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมาติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย

โรงพยาบาลนิวเจอร์ซีย์ได้ทำการตรวจสุขภาพบุคคลดังกล่าว โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ยืนยันว่าผลตรวจเชื้อเป็นบวก และได้ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแล้ว

-- สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์หรือ 0.04% สู่ระดับ 3.1067 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนก.พ. 2563

นางหวัง ชุนหยิง โฆษกและหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ SAFE เปิดเผยว่า ตลาดปริวรรตเงินตราของจีนยังคงมีเสถียรภาพในเดือนก.พ. โดยปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน และการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ ถ่วงตลาดลงเล็กน้อย

-- ข้อมูลศุลกากรจีนบ่งชี้ว่า การส่งออกของจีนทรุดตัวลง 17.2% ในเดือนม.ค.-ก.พ.ปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่การนำเข้าหดตัวลง 4% เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเผชิญกับภาวะชะงักงันครั้งใหญ่ และส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ส่วนการนำเข้าในช่วง 2 เดือนแรกลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะร่วงลง 15% โดยยอดนำเข้าดิ่งลงอย่างหนักจากเดือนธ.ค.ที่เคยพุ่งขึ้น 16.5%

ทั้งนี้ จีนมียอดขาดดุลการค้า 7.09 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่า จีนจะเกินดุลการค้า 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่เกินดุล 4.721 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2562

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยเยอรมนีเตรียมเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนม.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ