World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 10 มีนาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 10, 2020 09:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นกว่า 600 จุดในช่วงเช้านี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า เขาจะใช้มาตรการครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีเงินเดือน (payroll tax) โดยคณะบริหารของเขาจะเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินเดือน และมาตรการเร่งด่วนด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ณ เวลา 08.14 น. ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 630 จุด หรือ 2.64% แตะที่ 24,507 จุด

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า เขาจะใช้มาตรการครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีเงินเดือน (payroll tax) โดยคณะบริหารของเขาจะเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินเดือน และมาตรการเร่งด่วนด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ปธน.ทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เขากำลังหาลู่ทางในการบรรเทาผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดภาษีเงินเดือน และกำลังหาทางช่วยพนักงานที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า ประชาชนเหล่านี้จะไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันจันทร์ที่ 9 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 17 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น 3,136 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 19 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 80,754 ราย

-- ทำเนียบขาวได้ทำการเชิญผู้บริหารของบริษัทในย่านวอลล์สตรีทเข้าหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในวันพุธนี้ หลังตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนักในวันนี้

ก่อนหน้านี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความตำหนิการเสนอเฟคนิวส์ของสื่อ รวมทั้งความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับราคาและการผลิตน้ำมันว่า เป็นสาเหตุของการทรุดตัวของตลาดหุ้น

-- ทางการแคนาดายืนยันว่า พบผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 รายแรกในประเทศ โดยผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐบริติชโคลัมเบีย

นายบอนนี เฮ็นรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำรัฐแถลงว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 80 ปีซึ่งพักอยู่ในศูนย์ดูแลผู้สูงอายุย่านลินวัลเลย์ เมืองแวนคูเวอร์ โดยหน่วยงานสาธารณสุขได้รายการการติดเชื้อของชายคนดังกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตในช่วงเย็นวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น

-- นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1.00% ในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. แม้ว่าเฟดเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 55.7% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในวันที่ 18 มี.ค. จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% และมีแนวโน้ม 44.3% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.25-0.50%

-- ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐให้การตอบรับอย่างคึกคัก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า เฟดจะเพิ่มการอัดฉีดเงินกู้ระยะสั้นให้แก่ธนาคารต่างๆ เพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด โดยจะเพิ่มวงเงินจากระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์ สู่ 1.5 แสนล้านดอลลาร์จนถึงวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ เฟดได้รับคำขอเงินกู้ระยะสั้นจำนวน 1.129 แสนล้านดอลลาร์จากธนาคารหลายแห่งในวันนี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่เฟดเพิ่มวงเงินกู้ระยะสั้นแก่ภาคธนาคาร

นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะเพิ่มวงเงินการซื้อคืนพันธบัตรอายุ 2 สัปดาห์จาก 2 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์

-- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า "เราคาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินสอดคล้องกับการดำเนินการของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)"

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเข้าสู่ภาวะแพร่ระบาดไปทั่วโลก หลังมีการลุกลามไปยังเอเชีย, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และสหรัฐ

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวว่า "ไวรัสดังกล่าวได้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศ ทำให้ความเสี่ยงในการแพร่ระบาดไปทั่วโลก มีความเป็นจริงมากขึ้น"

-- คณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า การต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจต้องใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจต้องใช้เวลาจนถึงปีหน้า

"เรื่องนี้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนจนถึงครึ่งปี หรืออาจใช้เวลาเกินกว่าสิ้นปีนี้ เนื่องจากเชื้อไวรัสอาจทนต่อสภาพอากาศอบอุ่น" คณะผู้เชี่ยวชาญดังกล่าวกล่าวในการแถลงข่าว

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 5.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่มีการขยายตัว 5.4%

นอกจากนี้ NBS ยังเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดต้นทุนสินค้าที่หน้าประตูโรงงาน ปรับตัวลง 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสวนทางกับในเดือนม.ค.ที่ดัชนี PPI ปรับตัวขึ้น 0.1%

-- สถาบันวิจัย Sentix ของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในยูโรโซนดิ่งลงในเดือนมี.ค. แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2556 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนปรับตัวลงสู่ระดับ -17.1 จากระดับ +5.2 ในเดือนก.พ. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -11.1 โดยดัชนีความเชื่อมั่นดังกล่าวมาจากการสำรวจนักลงทุนจำนวน 1,155 รายในช่วงวันที่ 5-7 มี.ค.

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ จีนเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ., ออสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากเวสต์แพค, อังกฤษเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค. และสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ