นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) อาจกระทบเศรษฐกิจออสเตรเลียในระดับที่รุนแรงกว่าเมื่อครั้งที่เกิดวิกฤติการเงินโลกปี 2551 เนื่องจากจีนมีความใกล้ชิดกับออสเตรเลียมากในฐานะคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็ได้รับผลกระทบรุนแรงไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะจีนเองก็มีบทบาทสำคัญในหลาย ๆ ประเทศทั้งในแง่ของการค้าขายและห่วงโซ่อุปทาน
ขณะเดียวกัน ทางการออสเตรเลียยังเตรียมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ในวงเงินกว่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปมาตรการอัดฉีดเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจและรักษาการจ้างงาน และคาดว่าทางคณะรัฐมนตรีจะลงนามภายในวันนี้
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีขึ้นเพื่อรองรับผลกระทบของไวรัสดังกล่าวที่มีต่อเศรษฐกิจออสเตรเลีย ซึ่งก่อนหน้านี้เศรษฐกิจของประเทศได้รับผลกระทบรุนแรงอยู่เดิมแล้วจากปัญหาภัยแล้งและไฟป่า โดยมีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียจะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี
ก่อนหน้านี้ นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รัฐมนตรีคลังออสเตรเลียยืนยันว่า รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวคาดว่าจะมีวงเงินสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายฟรายเดนเบิร์ก กล่าวกับสำนักข่าวสกาย นิวส์ ออสเตรเลีย ว่า "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะมุ่งเน้นไปที่การลงทุนด้านการจ้างงาน และสนับสนุนกระแสเงินสดของภาคธุรกิจ นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนที่จะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ โดยจะพิจารณาตามความจำเป็น"