World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 16 มีนาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 16, 2020 08:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.00% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ และมีการประกาศผลการประชุมในเวลาราว 04.00 น.ของวันนี้ (16 มี.ค.) ตามเวลาไทย เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

ทั้งนี้ เฟดได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25%

เฟดระบุว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนกว่าเฟดมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้การจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา

นอกจากนี้ เฟดยังได้ประกาศซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์

-- ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 1,000 จุดในช่วงเช้านี้ แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.00% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ

ณ 05.25 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลง 1,031 จุด หรือ 4.51% แตะที่ระดับ 21,808 จุด

ต่อมาเมื่อเวลา 05.32 น.ตามเวลาไทย ตลาดหุ้นฟิวเจอร์สหรัฐใช้ระบบ circuit breaker เพื่อพักการซื้อขายชั่วคราว หลังจากดัชนีฟิวเจอร์ดิ่งลงแตะฟลอร์ที่ 5% ตามเกณฑ์ของตลาด

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย โดยนายพาวเวลกล่าวว่า เฟดไม่มีแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจนถึงระดับติดลบ หลังจากที่เฟดได้ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

"เราไม่เคยมองว่านโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบจะเป็นนโยบายที่เหมาะสมสำหรับสหรัฐในการรับมือกับสถานการณ์ในขณะนี้" นายพาวเวลกล่าว

นายพาวเวลกล่าวว่า การที่เฟดตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินลง 1.00% และเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะบรรเทาความตึงเครียดในตลาดการเงิน และเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้สามารถก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากในขณะนี้ได้

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟด ได้ยกเลิกการจัดประชุมในวันที่ 17-18 มี.ค.ซึ่งเป็นกำหนดการเดิม เนื่องจากเฟดได้จัดการประชุมฉุกเฉินในวันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค.แล้ว ซึ่งถือเป็นการชดเชยการประชุมในวันที่ 17-18 มี.ค.

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวชมเชยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ได้ดำเนินมาตรการครั้งใหญ่ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

"เฟดทำให้ผมมีความสุขมาก ผมขอแสดงความยินดีต่อเฟด พวกเขาดำเนินการในขั้นตอนเดียว และผมคิดว่าทุกคนในตลาดก็จะมีความตื่นเต้นในเรื่องนี้" ปธน.ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าว

การชมเชยเฟดในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ ซึ่งที่ผ่านมามักตำหนิและกดดันเฟด และนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยปธน.ทรัมป์อ้างว่าอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกำลังผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ขณะที่สร้างปัญหาต่อการส่งออก ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้า และเสียเปรียบในการแข่งขันกับประเทศต่างๆ

-- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมฉุกเฉิน และทดแทนการประชุมตามกำหนดการเดิมในวันที่ 18-19 มี.ค. ท่ามกลางความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ BOJ เปิดเผยว่า คณะกรรมการ BOJ จะจัดการประชุมนโยบายการเงินเพียงวันเดียวในวันนี้ โดยจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงตามเวลาท้องถิ่น

การจัดประชุมฉุกเฉินของ BOJ มีขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 1.00% จากระดับ 1.00-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2558 ในการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้

-- ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (CDC) ได้ขอให้เหล่าผู้จัดงานยกเลิกหรือไม่ก็เลื่อนการจัดงานอีเวนต์ที่มีผู้เข้าร่วม 50 คนขึ้นไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

อย่างไรก็ดี CDC ไม่ได้สั่งห้ามจัดโดยสิ้นเชิง โดยเพียงแนะนำว่า ถ้าผู้จัดยังคงจำเป็นต้องจัดงานต่อไป ก็ขอให้ปฏิบัติตามหลักสุขลักษณะที่ดีและหากเป็นไปได้ก็ควรจัดแบบเสมือนจริงบนระบบออนไลน์แทน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ เพิ่มขึ้นแตะระดับ 3,244 รายแล้ว

-- นายริกคาร์ด กุสตาฟสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ หรือ เอสเอเอส ซึ่งเป็นสายการบินของเดนมาร์ก นอร์เวย์ และสวีเดน แถลงต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า ทางสายการบินมีความจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานถึง 90% หรือประมาณ 10,000 ตำแหน่ง เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบจากการที่รัฐบาลสั่งจำกัดการเดินทางทางอากาศ อันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

อย่างไรก็ดี การเลิกจ้างดังกล่าวเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว โดยทางสายการบินอาจกลับมาจ้างงานใหม่ในอนาคตเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

นอกจากนี้ ทางสายการบินยังเตรียมยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มอีกเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันนี้ แต่ยินดีส่งเที่ยวบินช่วยเหลือหากรัฐบาลต้องการนำพลเมืองกลับบ้าน

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 15 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 14 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น 3,213 ราย

ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 16 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 80,860 ราย

-- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 8.394 แสนล้านเยน (7.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของภาคเอกชนญี่ปุ่นนั้น ปรับตัวขึ้นในเดือนม.ค. หลังจากที่ร่วงลง 11.9% ในเดือนธ.ค.

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยจีนเตรียมเปิดเผยการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนม.ค.-ก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.-ก.พ. และยอดค้าปลีกเดือนม.ค.-ก.พ. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม ขณะที่อังกฤษเตรียมเปิดเผย อัตราว่างงานเดือนม.ค., สถาบัน ZEW เตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของอียูและเยอรมนี ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผย ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.,การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ