World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 7 เมษายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 7, 2020 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้น 7.73% แตะ 22,679.99 จุดเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใกล้จะถึงจุดสูงสุด หลังจากข้อมูลเผยให้เห็นว่า จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหรัฐและหลายประเทศในยุโรป ชะลอตัวลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

-- ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในวันนี้ตามการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งได้แรงหนุนจากสัญญาณการชะลอตัวของยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงลดลงท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงลดการผลิตน้ำมันระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซีย

-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในกรุงโตเกียว, โอซากา และอีก 5 จังหวัดของญี่ปุ่นในวันนี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ว่าการของจังหวัดเหล่านี้สามารถใช้มาตรการป้องกันที่เข้มงวดมากขึ้น ตั้งแต่การแนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ไปจนถึงการสั่งปิดโรงเรียน และสถานที่อื่นๆ

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ณ วันจันทร์ที่ 6 เม.ย. จีนไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ที่เกิดจากการติดเชื้อภายในประเทศ ส่วนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่มาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 32 ราย โดยไม่มีผู้เสียชีวิต และมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มขึ้น 12 ราย

แถลงการณ์ระบุว่า จีนมียอดรวมผู้ติดเชื้อทั้งหมดอยู่ที่ 81,740 ราย และยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3,331 ราย

-- รัฐบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า คณะแพทย์ของโรงพยาบาลเซนต์โทมัสในกรุงลอนดอน ได้ย้ายตัวนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เข้ารับการรักษาในห้องไอซียูเมื่อวานนี้ หลังจากนายจอห์นสันมีอาการแย่ลง อันเนื่องมาจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

แถลงการณ์ระบุว่า นายจอห์นสันยังคงรู้สึกตัวในระหว่างที่ถูกย้ายเข้าไปยังห้องไอซียูเพื่อเป็นการเฝ้าระวังหากนายจอห์นสันจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยขณะนี้นายจอห์นสันได้รับการรักษาเป็นอย่างดี

-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานข้อมูลล่าสุดว่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 1,341,907 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นแตะ 74,476 ราย

สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ป่วยโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ 364,723 ราย รองลงมาคือสเปน 136,675 ราย, อิตาลี 132,547 ราย, เยอรมนี 102,453 ราย และฝรั่งเศส 98,959 ราย

ส่วนประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดในขณะนี้คืออิตาลี 16,523 ราย รองลงมาคือ สเปน 13,341 ราย, ฝรั่งเศส 8,911 ราย, สหรัฐอาณาจักร 5,373 ราย และอิหร่าน 3,739 ราย

-- ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก, นิวเจอร์ซีย์ และหลุยเซียนาเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจจะเริ่มทรงตัว แต่เตือนไม่ให้นิ่งนอนใจ เนื่องจากยอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศพุ่งทะลุ 10,000 รายแล้ว และจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกิน 360,000 รายแล้ว

-- เหล่าผู้นำธุรกิจในญี่ปุ่นต่างขานรับแผนการของรัฐบาลที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตเมืองบางพื้นที่ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

นายฮิโรอากิ นากานิชิ ประธานสมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น หรือ เคดันเรน ซึ่งเป็นองค์กรภาคธุรกิจที่มีอิทธิพลมากที่สุดของญี่ปุ่น กล่าวว่า การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีขึ้นก่อนที่ระบบสาธารณสุขจะพังลง เขาระบุว่า "หากมีการประกาศ ภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รวมพลังกัน และจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่"

-- นายอาลี อักบาร์ เวลายาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Masih Daneshvari Hospital ของอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านได้เริ่มผลิตยาต้านไวรัส "ฟาวิพิราเวียร์" (favipiravir) เป็นครั้งแรกในประเทศ เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19

สถานีโทรทัศน์เพรสทีวีของอิหร่านรายงานคำกล่าวของนายเวลายาติที่ระบุว่า ยาฟาวิพิราเวียร์ได้ถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกที่คณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ Shahid Beheshti Medical University และนำมาใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่โรงพยาบาล Masih Daneshvari Hospital

-- ผู้นำประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน กำลังเตรียมจัดการประชุมเทเลคอนเฟอเรนซ์ร่วมกันในสัปดาห์หน้า เพื่อหารือเกี่ยวกับวิธีการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวทางการทูตว่า การประชุมสุดยอดทางโทรศัพท์น่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 เม.ย. พร้อมเผยด้วยว่า อาเซียนซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 10 ชาติ กำลังพิจารณาที่จะจัดเทเลคอนเฟอเรนซ์ร่วมกับผู้นำญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ด้วย

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ., ญี่ปุ่นเปิดเผยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนก.พ. และทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนมี.ค., ออสเตรเลียเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ., เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ., จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนมี.ค., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.จากฮาลิแฟกซ์ และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.พ.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ. และยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนก.พ., สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ