รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้ประกาศแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพสายไอทีเป็นวงเงิน 1.25 พันล้านปอนด์ หรือราว 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้อยู่รอดในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพทั่วอังกฤษหลายรายไม่สามารถเข้าถึงกองทุนฉุกเฉินสำหรับธุรกิจขนาดเล็กได้ เนื่องจากยังไม่มีประวัติว่าทำกำไรได้ต่อเนื่อง ส่งผลให้บรรดาสตาร์ทอัพเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนภาคธุรกิจนี้ หลังรัฐบาลฝรั่งเศสเปิดกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศเป็นวงเงิน 4 พันล้านยูโร และรัฐบาลเยอรมนีก็เปิดกองทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศของตนอีก 2 พันล้านยูโร
สำหรับแผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินของอังกฤษนั้น ประกอบด้วยโครงการริเริ่ม 2 โครงการด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือกองทุน Future Fund วงเงิน 500 ล้านปอนด์สำหรับสตาร์ทอัพที่มีอัตราเติบโตสูง โดยทางรัฐบาลจะจัดหาเงินเข้ากองทุนดังกล่าว 250 ล้านปอนด์ ส่วนเอกชนจะเป็นผู้จัดหาอีก 250 ล้านปอนด์ที่เหลือ
กองทุนดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพอังกฤษที่ไม่ได้จดทะเบียนมีสิทธิ์ขอเงินกู้ได้ 125,000 ปอนด์ ไปจนถึง 5 ล้านปอนด์ โดยนักลงทุนเอกชนจะต้องออกเงินสมทบในจำนวนเท่ากับที่รัฐบาลออกให้
สตาร์ทอัพอังกฤษที่มีสิทธิ์ขอเงินกู้ในกองทุนนี้ จำเป็นต้องเคยระดมทุนจากนักลงทุนมาแล้วอย่างน้อย 250,000 ปอนด์ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา