World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 28 เมษายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 28, 2020 08:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 358.51 จุด หรือ +1.51% เมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) ขานรับรายงานที่ว่า หลายรัฐในสหรัฐเริ่มคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐนิวยอร์กที่จะเริ่มเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและแอปเปิล รวมทั้งรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ด้วย

-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธที่ 29 เม.ย.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันของพฤหัสบดีที่ 30 เม.ย.ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%

ขณะเดียวกัน นักลงทุนรอดูรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง เช่น แอปเปิล เฟซบุ๊ก และอัลฟาเบท

-- กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราว่างงานเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 2.5% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.4% ในเดือนก.พ.

ขณะที่อัตราตำแหน่งงานว่างเดือนมี.ค. อยู่ที่ระดับ 1.39 ลดลงจาก 1.45 ในเดือนก.พ. ซึ่งหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 139 อัตราสำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

-- องค์กร Coalition for Epidemic Preparedness Innovations ซึ่งสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับโครงการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 9 โครงการเปิดเผยว่า วัคซีนดังกล่าวอาจพร้อมใช้งานภายในปีนี้สำหรับกลุ่มเสี่ยง อาทิ บุคคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะพร้อมใช้งานภายใน 12-18 เดือน

นายริชาร์ด แฮทเชตต์ หัวหน้าองค์กรดังกล่าวระบุว่า วัคซีนที่ได้รับการสนับสนุนจาก CEPI หลายตัวอาจเข้าสู่การทดลองเฟสสองอย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อนนี้ และหากผลการทดลองพบว่าปลอดภัยและได้ผลแล้ว วัคซีนล็อตแรกก็น่าจะผลิตได้ภายในปีนี้ โดยคาดว่าจะเป็นการใช้ในกรณีฉุกเฉินก่อน

-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศให้การสนับสนุนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.ปีนี้

นอกจากนี้ นายไบเดนยังได้รับเสียงสนับสนุนจากนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ, นายเบอร์นี่ แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์, นางเอลิซาเบธ วอร์เรน วุฒิสมาชิกรัฐแมสซาชูเสตต์ รวมทั้งจากนายจอห์น แคร์รี และนายอัล กอร์ ซึ่งเป็นอดีตตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ

-- นายเดฟ คาลฮูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทโบอิ้ง กล่าวว่า อุปสงค์ในการเดินทางทางอากาศอาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีกว่าที่จะฟื้นตัวขึ้น และระบุว่า "เมื่ออุปสงค์ฟื้นตัวขึ้น ตลาดการบินเชิงพาณิชย์ก็จะมีขนาดเล็กลง"

ทั้งนี้ โบอิ้งมีกำหนดรายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกในวันพุธนี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ซบเซา จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้การเดินทางหยุดชะงักลง รวมทั้งผลกระทบจากการที่เครื่องบินรุ่น 737 MAX ของบริษัทถูกสั่งห้ามบิน หลังเกิดอุบัติเหตุตกลง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์รายงานว่า ขณะนี้ยอดรวมผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3,002,303 ราย และมีผู้เสียชีวิต 208,131 ราย

สหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 978,680 ราย และมีผู้เสียชีวิต 55,118 ราย

-- กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 799 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ส่งผลให้ขณะนี้สิงคโปร์มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมรวม 14,423 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ขณะที่อินโดนีเซียมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 9,096 ราย

ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่วนใหญ่ของสิงคโปร์เป็นแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในหอพัก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด

-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า เด็กจำนวนมากทั่วโลกจะเสียชีวิตลง เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้บางประเทศระงับโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคร้ายแรงบางอย่างเป็นการชั่วคราว เช่น โปลิโอ

นายแพทย์ทีโดรสกล่าวว่า ราว 21 ประเทศได้รายงานการขาดแคลนวัคซีน อันเป็นผลจากมาตรการระงับการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลให้เด็กเสียชีวิต และเตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อมาลาเรียทางใต้ของเขตซาฮาราของแอฟริกาจะพุ่งขึ้น 2 เท่า เนื่องจากมีการเลื่อนการฉีดวัคซีนในบางประเทศ

-- นายสตีฟ โคเครน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของบริษัทมูดี้ส์ อนาลิติกส์ กล่าวว่า ญี่ปุ่นและสิงคโปร์จะเป็นประเทศในเอเชียที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลง 6.3% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจสิงคโปร์หดตัว 2.2% ในไตรมาสแรกปีนี้

นายโคเครนกล่าวว่า เศรษฐกิจของประเทศทั้งสองได้อ่อนแอลง แม้แต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส ขณะที่มาตรการล็อกดาวน์เพื่อสกัดการแพร่ระบาดยิ่งสร้างปัญหาต่อระบบเศรษฐกิจ

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยฝรั่งเศสเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนมี.ค., ราคาบ้านเดือนก.พ.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเม.ย.และยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., อียูเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย., สหรัฐเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2563 (ประมาณการเบื้องต้น), ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 30 เม.ย.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ