กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2563 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 4.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัว 3.5% โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลข GDP ติดลบ นับตั้งแต่ที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจหดตัว 1.1% ในไตรมาส 1/2557 และเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่ที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจหดตัว 8.4% ในไตรมาส 4/2551 ซึ่งขณะนั้นสหรัฐกำลังเผชิญวิกฤตการเงิน
การใช้จ่ายของผู้บริโภค, การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ซึ่งไม่ใช่ที่พักอาศัย, การส่งออก และสินค้าคงคลัง ล้วนเป็นปัจจัยที่ฉุดเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสแรก อย่างไรก็ดี การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ซึ่งเป็นที่พักอาศัย และการใช้จ่ายของรัฐบาลได้ช่วยชดเชยผลกระทบดังกล่าว
ทั้งนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคทรุดตัวลง 7.6% ในไตรมาสแรก ขณะที่การใช้จ่ายด้านสินค้าคงทนร่วงลง 16.1% และการใช้จ่ายในภาคบริการดิ่งลง 10.2% ส่วนการส่งออกปรับตัวลง 8.7% และการนำเข้าลดลง 15.3%
โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ในการเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 สำหรับ GDP ประจำไตรมาส 1/2563 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลง 8.25% ซึ่งย่ำแย่กว่าตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.1% ทั้งในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว หลังจากเติบโต 2.0% ในไตรมาส 2 และ 3.1% ในไตรมาส 1
นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา