สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมจัดตั้งโครงการที่มีชื่อว่า "Operation Warp Speed" เพื่อเร่งระยะเวลาในการพัฒนาและผลิตวัคซีนต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตวัคซีนให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวอเมริกันส่วนใหญ่ภายในปลายปีนี้
โครงการดังกล่าวจะเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัทยาเอกชน หน่วยงานรัฐบาล และกองทัพสหรัฐ เพื่อร่นระยะเวลาพัฒนาวัคซีนให้ได้มากสุดถึง 8 เดือน โดยมีเป้าหมายเพื่อผลิตวัคซีนให้ได้ 300 ล้านโดสภายในเดือนม.ค. ปีหน้า ซึ่งนับว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ความร่วมมือดังกล่าวหมายความว่า บริษัทยาเอกชนจะไม่ได้เป็นผู้แบกรับความเสี่ยงทางการเงินหากวัคซีนตัวเลือกล้มเหลวเพียงฝ่ายเดียว แต่รัฐบาลจะแบกรับภาระดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่
ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้น หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งให้มีการเร่งพัฒนาวัคซีน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารจัดการประชุมเพื่อหาทางเร่งพัฒนาวัคซีนตลอด 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 3,187,952 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 225,604 ราย
ทั้งนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (1,048,834) รองลงมาคือสเปน (236,899), อิตาลี (203,591), ฝรั่งเศส (165,911), สหราชอาณาจักร (165,221), เยอรมนี (160,479) และตุรกี (117,589)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (60,495) ตามมาด้วยอิตาลี (27,682), สหราชอาณาจักร (26,097), สเปน (24,275) และฝรั่งเศส (23,660)