World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 26, 2020 08:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

การปรับลดคาดการณ์ GDP ในวันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วในปีนี้ โดยเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ทางกระทรวงฯได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ในปี 2563 ลงสู่ระดับ -0.5% ถึง 1.5% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 0.5% ถึง 2.5% และต่อมาในวันที่ 26 มี.ค. ทางกระทรวงฯได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2563 อีกครั้ง ลงสู่ระดับ -1.0% ถึง -4.0%

การปรับลดคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2563 เป็นครั้งที่ 3 นั้น มีขึ้นหลังจากทางกระทรวงฯเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ในไตรมาส 1/2563 ของสิงคโปร์ หดตัวลง 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังดีกว่าการประมาณการเบื้องต้นซึ่งระบุว่า GDP ไตรมาส 1/2563 อาจหดตัวลง 2.2% และดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว 1.5%

-- โนวาแวกซ์ (Novavax) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาวัคซีนรายใหญ่ของสหรัฐ ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ว่า ทางบริษัทได้เริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสแรกในการใช้วัคซีน NVX-CoV2373 เพื่อต้านไวรัสโควิด-19 โดยคาดว่าจะสามารถทราบผลเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัย และความสามารถในการกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน (immunogenicity) จากการทดลองดังกล่าวในเดือนก.ค.นี้

โนวาแวกซ์ระบุว่า เมื่อการทดลองเฟสแรกเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ทางบริษัทก็จะทำการทดลองเฟสที่ 2 ในหลายประเทศ ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยการทดลองในเฟสที่ 2 นั้น จะทำการประเมินเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน ความปลอดภัย และการลดการติดเชื้อโควิด-19 ในบุคคลหลากหลายช่วงอายุ

-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลอังกฤษจะอนุญาตให้มีการเปิดร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และศูนย์การค้า ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป โดยการตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพื่อเปิดทางให้ธุรกิจต่างๆเ ริ่มกลับมาดำเนินการได้อีกครั้ง

นายจอห์นสันยังระบุด้วยว่า นับตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป รัฐบาลจะอนุญาตให้โชว์รูมรถยนต์ และตลาดสด กลับมาเปิดทำการอีกครั้ง หลังจากที่มีรายงานว่าผู้ประกอบการของธุรกิจเหล่านี้สามารถดำเนินการตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยในการควบคุมโควิด-19

-- กระทรวงสาธารณสุขบราซิลเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 รายวันในบราซิล ทำสถิติสูงกว่ายอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พบผู้เสียชีวิตในบราซิลเพิ่มอีก 807 ราย แซงหน้าสหรัฐซึ่งมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 620 ราย

รายงานระบุว่า บราซิลได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมียอดรวมผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 374,898 ราย รองจากสหรัฐซึ่งมียอดรวมผู้ติดเชื้อ 1,662,250 ราย ขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตในบราซิลอยู่ที่ 23,473 ราย ส่วนยอดรวมผู้เสียชีวิตในสหรัฐอยู่ที่ 98,218 ราย

-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ประเทศซึ่งการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังลดลงนั้น อาจเผชิญกับการแพร่ระบาดรอบสอง หากประเทศดังกล่าวทำการเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป

นายแพทย์ไรอันกล่าวว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงกลางของการแพร่ระบาดในรอบแรก โดยถึงแม้ว่าการติดเชื้อได้ลดลงในหลายประเทศ แต่ก็ยังคงเพิ่มขึ้นในอเมริกากลางและอเมริกาใต้, เอเชียใต้ และแอฟริกา

-- นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า WHO ได้ระงับการนำยา hydroxychloroquine มาทดลองรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เนื่องจากมีความวิตกด้านความปลอดภัย

"คณะผู้บริหารของ WHO ออกคำสั่งชั่วคราวให้ระงับการใช้ยา hydroxychloroquine ในการทดลอง ขณะที่มีการทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัย" นายแพทย์ทีโดรสกล่าว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ยา hydroxychloroquine ซึ่งเป็นยารักษาโรคมาลาเรีย มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 และเขาได้กินยาดังกล่าวเพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19

-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวว่า รัฐบาลจะเพิ่มวงเงินเป็น 2 เท่าในมาตรการฉบับที่ 2 เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยจะอยู่ที่ระดับ 200 ล้านล้านเยน ขณะที่มาตรการฉบับปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 117.1 ล้านล้านเยน ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีจะอนุมัติงบประมาณฉบับที่ 2 ของปีงบประมาณ 2563 เพื่อเยียวยาธุรกิจขนาดย่อม รวมทั้งคนงานและนักศึกษา "วงเงินในมาตรการดังกล่าวจะสูงอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และมีสัดส่วนเทียบเท่ากับ 40% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)" นายอาเบะกล่าว

-- รัฐบาลเยอรมนีและสายการบินลุฟท์ฮันซา ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเยอรมนี สามารถบรรลุข้อตกลงซึ่งจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินของทางสายการบิน หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล ซึ่งทำให้มีการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ รัฐบาลเยอรมนีจะอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 9 พันล้านยูโร (9.8 พันล้านดอลลาร์) หรือราว 3.13 แสนล้านบาทให้แก่ลุฟท์ฮันซา

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. และเยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากสถาบัน GfK ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และดัชนีการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดสาขาดัลลัส

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนพ.ค., จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. และสหรัฐเปิดเผย ดัชนีภาคการผลิตเดือนพ.ค.จากเฟดริชมอนด์ และรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (เช้าวันที่ 28 พ.ค.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ