World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 9 มิถุนายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 9, 2020 08:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น 461.46 จุด หรือ +1.70% เมื่อคืนนี้ (8 มิ.ย.) ขานรับมุมมองบวกที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัว หลังจากทั้ง 50 รัฐของสหรัฐได้มีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ โดยความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

-- หุ้นคาเธ่ย์แปซิฟิค แอร์เวย์ รวมถึงหุ้นของบริษัผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของคาเธ่ย์ซึ่งได้แก่ หุ้นสไวร์ แปซิฟิก และหุ้นแอร์ ไชน่าได้ถูกขึ้นป้ายหยุดพักการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเป็นการชั่วคราวในวันนี้ (9 มิ.ย.) จนกว่าจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป

ทีมผู้บริหารของคาเธ่ย์ได้ประชุมกับผู้นำของสหภาพนักบินของคาเธ่ย์แปซิฟิคและคาเธ่ย์ ดรากอนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะประกาศผลการประชุมในวันนี้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูง และการประกาศชื่อซีอีโอคนใหม่ของคาเธ่ย์ ดรากอน

-- สำนักข่าวกลางของเกาหลีเหนือเปิดเผยในวันนี้ว่า เส้นทางการสื่อสารทั้งหมดระหว่างเกาหลีเหนือและใต้จะถูกตัดในช่วงบ่ายวันนี้ โดยจะเป็นขั้นตอนแรกของการตัดสินใจที่จะปิดการติดต่อทั้งหมดกับเกาหลีใต้ โดยเกาหลีเหนือระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ให้ความเห็นชอบกับการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ ขณะที่พยายามหลบเลี่ยงความรับผิดชอบด้วยข้อแก้ตัวที่น่ารังเกียจ

นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือแสดงความไม่พอใจมากขึ้นเกี่ยวกับการโปรยใบปลิวโจมตีเกาหลีเหนือ และขู่ที่จะปิดสำนักงานประสานงานร่วม รวมถึงนิคมโรงงานที่ดำเนินงานร่วมกับเกาหลีใต้ลงอย่างถาวร

-- เจ้าชายอับดูลาซิส บิน ซัลมาน รัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียจะเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ค.เพื่อให้สอดคล้องกับโควตาการผลิตน้ำมันของประเทศ หลังจากที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียได้สมัครใจปรับลดกำลังการผลิตเกินกว่าที่ตกลงกันไว้ จนทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบียต่ำกว่าโควตาที่ได้รับอนุญาตให้ผลิต

ทั้งนี้ ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส บรรลุข้อตกลงในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงเดือนก.ค. จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.

-- สำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติช่วงการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

NBER เปิดเผยว่า การทรุดตัวของการจ้างงานและการผลิตในระดับที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน และผลกระทบในวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจทั้งหมด ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐดิ่งลง 4.8% ในไตรมาสแรก ขณะที่คาดว่า GDP ในไตรมาส 2 จะทรุดตัวลงมากกว่า 20%

-- ธนาคารโลกออกรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเมื่อวานนี้ระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะฉุดให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ธนาคารโลกเปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 5.2% ในปีนี้ และหากสถานการณ์ย่ำแย่ลงจากการแพร่ระบาดที่ยืดเยื้อของไวรัสโควิด-19 เศรษฐกิจโลกก็จะทรุดตัวลง 8% ในปีนี้ ตามมาด้วยการฟื้นตัว 1% ในปีหน้า

-- บริษัทบีพี ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของอังกฤษแถลงเมื่อวานนี้ว่า บริษัทจะปลดพนักงานจำนวน 10,000 คนทั่วโลกภายในสิ้นปีนี้ หลังจากที่บริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ นายเบอร์นาด ลูนีย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบีพี กล่าวว่า การปลดพนักงานส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้ ซึ่งผู้ที่จะได้รับผลกระทบเป็นพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนเม.ย. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนเม.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนเม.ย.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนเม.ย., อสเตรเลียเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จากเวสต์แพค, จีนเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 11 มิ.ย.)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ