World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 10 มิถุนายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 10, 2020 09:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์พุ่งขึ้นติดต่อกัน 6 วันทำการ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

-- นักลงทุนในตลาดการเงินต่างก็จับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย

นักเศรษฐศาสตร์หลายรายคาดว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะเปิดเผยแนวทางมากขึ้นในการประชุมครั้งนี้ เพื่อส่งสัญญาณถึงความตั้งใจที่เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ระดับ 0% ต่อไปอีก 2-3 ปี เพื่อช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19

-- นักลงทุนจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอย่างใกล้ชิด หลังจากสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐ (NBER) ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในเดือนก.พ. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐยุติช่วงการขยายตัวที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

อย่างไรก็ดี NBER คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวตั้งแต่ไตรมาส 3 ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรอบนี้ นอกจากจะมีความรุนแรงเป็นประวัติการณ์ ยังทำสถิติช่วงเวลาสั้นที่สุดเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

-- ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ร่วมกับตลาดการเงินแห่งอื่นๆของสหรัฐ จัดพิธีไว้อาลัยแก่จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปีที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค.จากการใช้ความรุนแรงของตำรวจ

ทั้งนี้ เทรดเดอร์ในห้องค้าของ Intercontinental Exchange Inc ของ NYSE ได้ยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 8 นาที 46 วินาทีในเวลาเที่ยง ซึ่งสอดคล้องกับการเริ่มจัดพิธีศพของฟลอยด์ในเมืองฮุสตัน และเป็นช่วงเวลาที่ฟลอยด์ถูกเข่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจกดทับบนคอจนเสียชีวิต

พิธีไว้อาลัยดังกล่าวถือว่ายาวนานที่สุดในการจัดบนห้องค้าของ NYSE ในประวัติศาสตร์ 228 ปี

นอกจากนี้ Nasdaq Inc, Cboe Global Markets Inc และ IEX Group ต่างก็ได้จัดพิธีไว้อาลัยต่อฟลอยด์เช่นกัน

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 2.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนเม.ย.ที่มีการขยายตัว 3.3%

-- สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวขึ้น 4.5 จุด สู่ระดับ 94.4 ในเดือนพ.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

NFIB ระบุว่า เจ้าของกิจการมีความเชื่อมั่นมากขึ้นต่อภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ความเชื่อมั่นแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. โดยบริษัทจำนวนมากขึ้นระบุว่ามีแผนที่จะลงทุนและจ้างงาน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากโครงการ Paycheck Protection Program ของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งช่วยให้บรรดานายจ้างสามารถว่าจ้างพนักงานในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเม.ย. หลังจากดิ่งลง 1.1% ในเดือนมี.ค.

ส่วนยอดขายในภาคค้าส่งทรุดตัวลง 16.9% ในเดือนเม.ย. หลังจากร่วงลง 5.1% ในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.65 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก จากระดับ 1.36 เดือนเดือนมี.ค.

-- สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 965,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.0 ล้านตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2557

การร่วงลงของตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอาจต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตการณ๋ไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสนใจ โดยมองว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 7,316,944 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 413,627 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (2,045,549) รองลงมาคือบราซิล (742,084), รัสเซีย (485,253), สหราชอาณาจักร (289,140), สเปน (289,046), และอินเดีย (276,146)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (114,148) ตามมาด้วยสหราชอาณาจักร (40,883), บราซิล (38,497), อิตาลี (34,043) และฝรั่งเศส (29,296)

-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลบราซิล หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุขบราซิลประกาศยกเลิกการเปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสม และยอดผู้เสียชีวิตสะสม โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตรายใหม่เท่านั้น

WHO ระบุว่า บราซิลควรเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านกระทรวงสาธารณสุขบราซิลแถลงว่า การยกเลิกการเปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสม และยอดผู้เสียชีวิตสะสมมีสาเหตุจากการเปิดเผยข้อมูลที่ผิดพลาดจาก 2 รัฐ

ขณะที่ เซา เปาโล ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นที่สุดของบราซิล รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เมื่อวานนี้ จำนวน 334 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อในรัฐดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 9,522 ราย

-- จีนเตือนอังกฤษอย่าแทรกแซงกิจการของฮ่องกง ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศหลังจีนบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงเพื่อควบคุมฮ่องกง

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวกับนายโดมินิก ร้าบ รมว.ต่างประเทศอังกฤษ ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวานนี้ว่า "จีนไม่เคยก้าวก่ายกิจการภายในของอังกฤษ" และย้ำว่าจีนจะยังคงใช้หลัก "หนึ่งประเทศ สองระบบ"

นอกจากนี้ รมว.ต่างประเทศจีนยังกล่าวด้วยว่า "กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกงจะลงโทษการกระทำเพื่อแยกฮ่องกงเป็นอิสระ รวมถึงผู้ก่อการร้ายที่เป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของชาติ"

-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการกัมพูชาจะทำการสอบสวนการหายตัวของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมของไทยที่ลี้ภัยทางการเมืองไปยังกัมพูชา

"เจ้าหน้าที่กัมพูชาจะสอบสวนกรณีนี้ โดยเราจะสอบสวนดูว่าข้อมูลดังกล่าวมีมูลความจริงหรือไม่" โฆษกสำนักงานตำรวจกัมพูชากล่าว

ก่อนหน้านี้ กัมพูชาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการที่นายวันเฉลิมได้หายตัวไปในวันที่ 4 มิ.ย.ขณะอยู่ที่กรุงพนมเปญ ซึ่งสร้างความไม่พอใจต่อหลายฝ่าย ขณะที่ผู้ชุมนุมรวมตัวกันหน้าสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยเมื่อวานนี้ เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและกัมพูชาสอบสวนเรื่องดังกล่าว

-- วันนี้สหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รวมถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะตรงกับช่วงเช้าวันที่ 11 มิ.ย. ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ