World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 17 มิถุนายน 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday June 17, 2020 09:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 เมื่อคืนนี้ ขานรับยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ทำสถิติแข็งแกร่งสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งความคืบหน้าในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์อ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกพุ่งขึ้น 17.7% ในเดือนพ.ค. ทำสถิติทะยานขึ้นมากเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 8.0% หลังจากดิ่งลง 14.7% ในเดือนเม.ย.

ยอดค้าปลีกแตะระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ระดับ 6.7% ในเดือนต.ค.2544

ยอดค้าปลีกที่พุ่งขึ้นในเดือนพ.ค. ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค หลังจากที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยเตือนว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่ธุรกิจขนาดย่อม และผู้ที่มีรายได้ระดับต่ำ รวมทั้งชาวอเมริกันซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อย เป็นกลุ่มที่เผชิญความเสี่ยงมากที่สุด

"การผลิตและการจ้างงานยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และยังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมากเกี่ยวกับกำหนดเวลาและความแข็งแกร่งของการฟื้นตัว ซึ่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่มาจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความคืบหน้าในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์จะยังไม่เกิดขึ้น จนกว่าประชาชนจะมีความเชื่อมั่นว่าไวรัสดังกล่าวได้ถูกควบคุมแล้ว" นายพาวเวลกล่าว

ส่วนในวันนี้ นายพาวเวลมีกำหนดแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ

-- สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมัน โดยคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 91.7 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับการประเมินในเดือนพ.ค. ขณะที่ได้แรงหนุนจากการบริโภคน้ำมันที่มากเกินคาดในช่วงที่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์

อย่างไรก็ดี IEA เตือนว่า การทรุดตัวของอุตสาหกรรมการบินอันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 บ่งชี้ว่า อุปสงค์น้ำมันจะยังไม่ฟื้นตัวกลับสู่ระดับก่อนช่วงเกิดการแพร่ระบาด จนกว่าจะถึงปี 2565

IEA ระบุว่า อุปทานน้ำมันดิ่งลงเกือบ 12 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. จากการที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.4 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโอเปกพลัสได้ปรับลดกำลังการผลิตสู่ระดับ 89% ของข้อตกลงลดการผลิต

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 8,256,725 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 445,958 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (2,208,400) รองลงมาคือบราซิล (928,834), รัสเซีย (545,458), อินเดีย (354,161), สหราชอาณาจักร (298,136) และสเปน (291,408)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (119,132) ตามมาด้วยบราซิล (45,456), สหราชอาณาจักร (41,969), อิตาลี (34,405) และฝรั่งเศส (29,547)

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ณ วันอังคารที่ 16 มิ.ย. มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้น 44 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่พบในกรุงปักกิ่ง 31 ราย, ในมณฑลเหอเป่ย 1 ราย และในมณฑลเจ้อเจียง 1 ราย

ทั้งนี้ ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในประเทศจีน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศยังคงอยู่ที่ 4,634 ราย ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศขณะนี้อยู่ที่ 83,265 ราย

ส่วนผู้ป่วยที่ได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลหลังจากได้รับการรักษาจนหายดีแล้วนั้น เพิ่มขึ้น 2 ราย ณ วันอังคารที่ 16 มิ.ย. ส่งผลให้ยอดรวมผู้หายดีและออกจากโรงพยาบาลแล้วอยู่ที่ 78,379 ราย

-- เทศบาลนครปักกิ่งได้สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในกรุงปักกิ่ง และแพร่ระบาดไปยังมณฑลใกล้เคียง

กรุงปักกิ่งประกาศยกระดับเตือนภัยฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากระดับ 3 สู่ระดับ 2 เมื่อวานนี้ พร้อมประกาศว่า ประชาชนทุกคนที่จะเดินทางออกจากกรุงปักกิ่ง จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน

นอกจากนี้ กรุงปักกิ่งยังสั่งให้รถแท็กซี่และบริการเรียกรถโดยสารขับอยู่แต่ภายในเมือง เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แบบกลุ่มก้อนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

-- นายคริส วิตตี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการแพทย์ของอังกฤษ กล่าวว่า ผลการใช้ยา dexamethasone ซึ่งเป็นยาสเตียรอยด์ ในการรักษาชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการรุนแรง ถือเป็นผลการทดลองที่มีความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้

ทั้งนี้ มีรายงานว่า การใช้ยา dexamethasone สามารถลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลได้ถึง 1 ใน 3

"ยาดังกล่าวสามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางระบบทางเดินหายใจ หรือขาดออกซิเจน และจะช่วยรักษาชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลก" นายวิตตีกล่าว

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยกฎเกณฑ์ใหม่ที่จะอนุญาตให้บริษัทสหรัฐสามารถร่วมงานกับบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ของจีนได้ในการพัฒนามาตรฐานเครือข่ายสื่อสารไร้สายระบบ 5G และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอื่นๆ แม้ยังคงมีข้อจำกัดในการทำธุรกิจกับหัวเว่ยก็ตาม

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กฎเกณฑ์ดังกล่าวได้รับการอนุมัติ และส่งให้กับทาง Federal Register ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐในการเผยแพร่กฎเกณฑ์ดังกล่าว ซึ่งได้มีการโพสต์บนเว็บไซต์เมื่อวานนี้ และจะเผยแพร่อย่างเป็นทางการในวันพฤหัสบดีนี้

กฎเกณฑ์ดังกล่าวจะแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับการขึ้นบัญชีดำบริษัทหัวเว่ยในรายการ "entity listing" ซึ่งจำกัดการขายสินค้าและเทคโนโลยีของสหรัฐให้กับหัวเว่ย ซึ่งสหรัฐได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในเดือนพ.ค. 2562 โดยระบุถึงความวิตกด้านความมั่นคงของชาติ

ทั้งนี้ การแก้ไขกฎดังกล่าวจะอนุญาตให้หัวเว่ยและบริษัทในเครือของหัวเว่ยสามารถใช้เทคโนโลยีบางอย่างของสหรัฐได้ หากช่วยในการปรับปรุง หรือพัฒนามาตรฐานของระบบ 5G ในองค์กรกำหนดมาตรฐาน

-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนพ.ค.ร่วงลง 28.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากการส่งออกรถยนต์ทรุดฮวบลง 64.1% ขณะที่ยอดนำเข้าในเดือนพ.ค.ร่วงลง 26.2% ทำสถิติดิ่งลงหนักสุดในรอบ 10 ปีเช่นกัน

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดขาดดุลการค้าในเดือนพ.ค.ที่ระดับ 8.334 แสนล้านเยน หรือประมาณ 7.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อให้มีการปฏิรูปวงการตำรวจสหรัฐ หลังเกิดเหตุจลาจลทั่วประเทศ ท่ามกลางความไม่พอใจต่อการเสียชีวิตของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีวัย 46 ปี จากการใช้ความรุนแรงของตำรวจ

คำสั่งดังกล่าวจะห้ามตำรวจล็อกคอผู้ต้องสงสัย ยกเว้นในกรณีที่ตำรวจถูกคุกคาม และมีความเสี่ยงถึงชีวิต

นอกจากนี้ คำสั่งฉบับนี้ยังมีเป้าหมายในการติดตามการละเมิดกฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่สร้างแรงจูงใจให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น

-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ อังกฤษและอียูมีกำหนดการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ค. ด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดการเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ค. ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนมิ.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย รวมถึงดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค.จากคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ