ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนที่ทะยานขึ้นกว่า 5% เมื่อวานนี้ ท่ามกลางมุมมองบวกที่ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,287.03 จุด พุ่งขึ้น 459.67 จุด หรือ +1.78% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,179.72 จุด เพิ่มขึ้น 49.71 จุด หรือ +1.59% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,433.65 จุด เพิ่มขึ้น 226.02 จุด หรือ +2.21%
-- ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวไร้ทิศทางในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยจากที่ประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียในวันนี้
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลง ขณะที่ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้น โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอลจี เคม ที่พุ่งขึ้นมากกว่า 3% และดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย เพิ่มขึ้น 0.95%
บรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะลงมติตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป
-- รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยในวันจันทร์ว่า โครงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ระบาดนั้นสามารถปกป้องตำแหน่งงานของชาวอเมริกันได้ราว 51.1 ล้านตำแหน่ง โดยรัฐบาลได้อัดฉีดเงินภาษี 5.214 แสนล้านดอลลาร์ให้กับธุรกิจขนาดเล็ก และรวมถึงคนรวย และบุคคลที่มีชื่อเสียงด้วย
ข้อมูลโครงการช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็ก Paycheck Protection Program (PPP) ได้ยืนยันความวิตกของพรรคเดโมแครตและกลุ่มตรวจสอบต่างๆ ที่ว่า เงินทุนช่วยเหลือในโครงการดังกล่าวได้ถูกส่งมอบให้กับบริษัทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัฐบาล โดยบางแห่งได้รับอนุมัติเงินราว 5-10 ล้านดอลลาร์
-- นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยในวันจันทร์ว่า อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ได้ลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นในรัฐทางตะวันออกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ
ดร.ฟอซีกล่าวว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นจากที่เริ่มระบาดครั้งแรกเมื่อต้นปีนี้ แต่ไม่ใช่การระบาดรอบสอง
-- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 57.1 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 45.4 ในเดือนพ.ค. โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการที่หลายรัฐเริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง หลังจากที่ต้องล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคบริการซึ่งคิดเป็นสองในสามของเศรษฐกิจสหรัฐได้กลับเข้าสู่ภาวะขยายตัวแล้ว หลังจากที่ร่วงลงไปแตะระดับ 41.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีภาคบริการเดือนมิ.ย. จะอยู่ที่ 48.9
-- โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ เป็นร่วงลง 4.6% ซึ่งแย่กว่าที่คาดการณ์ครั้งก่อนว่าจะหดตัวลง 4.2%
นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุในรายงานว่า "ข้อจำกัดต่างๆ ที่เข้มงวดมากขึ้น ประกอบกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม กำลังส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเห็นได้ชัด"
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ณ เวลา 08.00 น.ตามเวลาไทยวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 11,732,169 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 540,119 ราย
สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (3,040,006) รองลงมาคือบราซิล (1,626,071) อินเดีย (720,346) รัสเซีย (687,862) เปรู (305,703) และสเปน (298,869)
นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (132,961) ตามมาด้วยบราซิล (65,556), สหราชอาณาจักร (44,236), อิตาลี (34,869) และเม็กซิโก (30,639) และฝรั่งเศส (29,920)
-- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนพ.ค.ร่วงลง 16.2% ซึ่งเป็นการดิ่งลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ และทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
รายงานของกระทรวงระบุว่า ยอดการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนที่มีสมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปอยู่ที่ 252,017 เยน หรือ 2,300 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนพ.ค. ลดลงจากเดือนเม.ย.ซึ่งอยู่ที่ 267,922 เยน หรือ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐ
-- สำนักงานธรณีวิทยาและอุตุนิยมวิทยาของอินโดนีเซียรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว 6.1 แมกนิจูดที่เกาะชวากลาง ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย ในช่วงเช้าวันนี้
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.54 น.ตามเวลาไทย โดยมีศูนย์กลางห่างจากฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเจปารา ประมาณ 53 กิโลเมตร และมีความลึกใต้ทะเลประมาณ 578 กิโลเมตร
อย่างไรก็ดี ไม่มีการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ และยังไม่มีรายงานความเสียหายจนถึงขณะนี้
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ค., ญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลการใช้จ่ายภาคครัวเรือนเดือนพ.ค., ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ค., ธนาคารกลางออสเตรเลียประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย.จากฮาลิแฟกซ์, จีนเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนมิ.ย. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนพ.ค.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ค. และสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)