นายราวี เมนอน กรรมการผู้จัดการธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้แสดงความเชื่อมั่นว่า ระบบการเงินของสิงคโปร์ยังคงมีความแข็งแกร่งและสามารถฟื้นตัวได้ แม้ว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นายเมนอนกล่าวระหว่างการเปิดเผยรายงานประจำปีของธนาคารกลางสิงคโปร์ในวันนี้ว่า "เป้าหมายของนโยบายการเงินในช่วงวิกฤต คือการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจถูกกดันจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้"
ถ้อยแถลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารธนาคารกลางสิงคโปร์ยังคงมีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ แม้ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 ของสิงคโปร์ หดตัวลง 41.2% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์
ตัวเลข GDP ของสิงคโปร์ที่หดตัวลงอย่างรุนแรงได้สร้างแรงกดดันให้กับพรรคกิจประชาชน (People's Action Party หรือ PAP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ที่เพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรัฐบาลได้ให้คำมั่นไว้ว่า จะใช้งบประมาณสูงถึง 9.3 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ