World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 21 กรกฎาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 21, 2020 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ได้ทวีตข้อความว่า "หลังจากที่การเจรจาอันเข้มข้นผ่านพ้นไปเป็นเวลา 4 วัน ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการประนีประนอมกันอย่างสร้างสรรค์ พลเมืองยุโรปกำลังรอคอยแผนฟื้นฟูฉบับนี้ และทั่วโลกกำลังจับตา"

ทั้งนี้ คำกล่าวของนางฟอน เดอร์ เลเยน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า การประชุมผู้นำ EU อาจจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ (21 ก.ค.) ขณะเดียวกันคาดว่า นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และนางฟอน เดอร์ เลเยน จะจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม

-- นางกราซีลา มาร์เกซ รมว.เศรษฐกิจเม็กซิโกเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เม็กซิโกได้เชิญบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทผลิตเหล็กกล้า เพื่อพยายามดึงดูดธุรกิจจากภูมิภาคเอเชียให้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าอเมริกาเหนือฉบับใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อต้นเดือนนี้

นางมาร์เกซเปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกได้เจรจากับบริษัทผู้ผลิตเหล็กกล้าต่างชาติ รวมถึง POSCO ของเกาหลีใต้, นิปปอน สตีล คอร์ป และมิตซูบิชิ คอร์ปของญี่ปุ่น รวมถึงบริษัทเทอร์เนียมของลักเซมเบิร์ก เกี่ยวกับการลงทุนในเม็กซิโกเพื่อผลิตเหล็กกล้าสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์

-- ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐพุ่งขึ้นอีกครั้ง โดยเมื่อวานนี้รัฐฟลอริดารายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 รายเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว แต่สถานการณ์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเริ่มดีขึ้น โดยจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเริ่มทรงตัวหลังจากพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้

รัฐฟลอริดาได้กลายเป็นรัฐที่มียอดติดเชื้อโควิดพุ่งขึ้นล่าสุด ขณะที่สหภาพครูได้ยื่นฟ้องนายรอน เดอแซนติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดาเกี่ยวกับแผนการของเขาที่จะเปิดโรงเรียนเพื่อทำการเรียนการสอนภายในชั้นเรียน

-- คณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินของไต้หวัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ระดับโลกหลายแห่งในฮ่องกงกำลังให้ความสนใจในการขยายธุรกิจในไต้หวัน เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่รัฐบาลจีนบังคับใช้ในฮ่องกง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดว่าจะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไต้หวัน ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะและการส่งออกหดตัว โดยนายหวง เทียนมู่ ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลด้านการเงินของไต้หวัน เปิดเผยว่า บริษัทหลักทรัพย์สหรัฐบางแห่งกำลังมีแผนขยายธุรกิจในไต้หวัน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งต้องการจัดตั้งธุรกิจใหม่ในไต้หวัน

-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวแสดงความยินดีต่อรายงานที่ว่า วัคซีนที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์

อย่างไรก็ดี นายแพทย์ไรอันเตือนว่า การทดลองดังกล่าวยังคงอยู่ในช่วงเริ่มแรก และยังคงต้องมีหลักฐานบ่งชี้มากขึ้นเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าว

-- The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีน ChAdOx1 nCoV-19 ที่ได้รับการพัฒนาโดยบริษัท AstraZeneca ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองในมนุษย์

ทั้งนี้ AstraZeneca และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดได้ทำการทดลองวัคซีนในเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน โดยพบว่าร่างกายสามารถผลิตแอนติบอดีและเม็ดเลือดขาวในการกำจัดเชื้อไวรัสโควิด-19

-- ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ในวันนี้ ระบุว่า ทั้งสองบริษัทได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลอังกฤษในการส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 30 ล้านโดสในปีนี้และปีหน้า

ไฟเซอร์และ BioNTech ระบุว่าจะมีการจัดส่งวัคซีนแก่รัฐบาลอังกฤษ ทันทีที่วัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

-- The Lancet ซึ่งเป็นวารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า ผลการทดลองวัคซีน Ad5 ในเฟส 2 ในมนุษย์ที่มีการดำเนินการในจีน พบว่า วัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย และสามารถสร้างภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ จีนได้ใช้อาสาสมัครจำนวน 508 รายสำหรับการทดลองวัคซีนในเฟส 2 โดยมีจำนวนสูงกว่าเฟสแรกที่ใช้อาสาสมัครเพียง 108 ราย และขณะนี้จีนกำลังเตรียมการสำหรับการทดลองในเฟส 3

-- ข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า อินโดนีเซียยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิตสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 1,693 รายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมรวม 88,214 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมรวม 4,239 ราย

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมิ.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยรายงานการประชุม และสหรัฐเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก

ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ