World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 23, 2020 10:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,005.84 จุด เพิ่มขึ้น 165.44 จุด หรือ +0.62% ซึ่งทำสถิติยืนเหนือระดับ 27,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์

ทั้งนี้ สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนทำให้นักลงทุนแห่ซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัยที่สามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี (defensive stocks) เช่นหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคและกลุ่มสาธารณูปโภค ขณะเดียวนักลงทุนคาดหวังเกี่ยวกับการเจรจาระหว่างทำเนียบขาวและสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ซึ่งคาดว่าจะมีวงเงินราว 1 ล้านล้านดอลลาร์

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้จัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทยว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในสหรัฐเพิ่มขึ้น หลังจากที่ได้สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตัน อันเนื่องมาจากข้อกล่าวหาที่ว่าจีนกระทำการโจรกรรมข้อมูลลับ

ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเจาะจงว่าเพราะเหตุใดจึงสั่งให้ปิดสถานกงสุลในเมืองฮิวสตัน แต่ก็กล่าวเป็นนัยว่า เกิดจากการกระทำที่น่าสงสัยของจีน หลังจากมีรายงานว่า มีการจุดไฟเผาเอกสารในบริเวณสนามของสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

-- สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า การที่รัฐบาลสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันนั้น ถือเป็นการยั่วยุทางการเมือง เป็นการกระทำที่ระรานและไม่เป็นธรรม ซึ่งทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐ

แถลงการณ์ของสถานเอกอัครราชทูตจีนระบุว่า "การที่สหรัฐสั่งให้สถานกงสุลจีนในเมืองฮิวสตันยุติการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆภายในเวลาที่สหรัฐกำหนดนั้น ถือเป็นการยั่วยุทางการเมืองโดยสหรัฐฝ่ายเดียว ซึ่งขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ หลักการพื้นฐานด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และข้อตกลงด้านกงสุลระดับทวิพาคีระหว่างจีนและสหรัฐ อย่างรุนแรง"

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังส่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลจำนวนมากไปยังชิคาโก โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนในการปราบปราม "อาชญากรรมรุนแรง"

ปธน.ทรัมป์ แถลงที่ทำเนียบขาวว่า "วันนี้ผมขอประกาศส่งเจ้าหน้าที่บังคับกฎหมายจากรัฐบาลกลางจำนวนมากไปยังชุมชนชาวอเมริกันที่กำลังเดือดร้อนจากอาชญากรรมรุนแรง"

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางที่ปธน.ทรัมป์กล่าวถึงนี้ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) สำนักงานปราบปรามยาเสพติด (DEA) สำนักงานผู้ตรวจการ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าที่ไปยังชิคาโกเป็นจำนวนรวมกันหลายร้อยคน

-- นายเดวิด แซสโซลี ประธานรัฐสภายุโรป เปิดเผยว่า รัฐสภายุโรปจะไม่เป็นตรายางรับรองข้อตกลงของสหภาพยุโรป (EU) ในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ หากข้อตกลงดังกล่าวไม่สอดคล้องกับเงื่อนไขที่รัฐสภาระบุไว้

ทั้งนี้ แม้ว่าผู้นำ 27 ชาติของ EU สามารถบรรลุข้อตกลงในการจัดตั้งกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโร (8.55 แสนล้านดอลลาร์) เพื่อเยียวยาเศรษฐกิจ EU จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภายุโรปเพื่อให้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ

-- นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.สาธารณสุขสหรัฐกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐจะจ่ายเงินจำนวน 1.95 พันล้านดอลลาร์ให้แก่ไฟเซอร์ อิงค์ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เพื่อให้ทำการผลิตและส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสให้แก่รัฐบาล หากวัคซีนดังกล่าวได้รับการรับรองว่ามีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในมนุษย์

นอกจากนี้ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ไฟเซอร์อาจจะจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีก 500 ล้านโดสให้กับรัฐบาลสหรัฐ โดยใน ขณะนี้ ไฟเซอร์กำลังพัฒนาวัคซีนดังกล่าวร่วมกับ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี

-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวเตือนว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกา

"แน่นอนว่าอเมริกายังคงเป็นแหล่งแพร่ระบาดสำคัญ ทั้งในอเมริกาเหนือ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ แต่เราพบว่าโควิด-19 กำลังเริ่มแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในแอฟริกา" เขากล่าว

-- นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมไวรัสโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวยอมรับว่า ไม่มีแนวโน้มที่ไวรัสโควิด-19 จะถูกกำจัดออกไป

"ในขณะที่ไวรัสจะไม่มีทางหายไป แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้นำของโลกและเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขจะดำเนินการเพื่อให้ไวรัสนี้อยู่ในระดับต่ำ" นายแพทย์ฟอซีระบุ

-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทหลายแห่งกำลังมีความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 โดยวัคซีนหลายตัวกำลังอยู่ในการทดลองระยะสุดท้าย แต่คาดว่าการใช้วัคซีนดังกล่าวเป็นครั้งแรกจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงต้นปีหน้า

"เมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงแล้ว การเริ่มต้นใช้วัคซีนกับมนุษย์เป็นครั้งแรกจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปีหน้า" นายแพทย์ไรอันกล่าว

-- นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยว่า จีนมีความยินดีที่สหภาพยุโรป (EU) ตัดสินใจลงนามในข้อตกลงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ระหว่างจีนกับ EU

มีรายงานว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้ตัดสินใจลงนามในข้อตกลง GI ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่สำคัญข้อตกลงแรกที่จะปกป้องสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ 100 แห่งของทั้งสองฝ่าย

-- ญี่ปุ่นเริ่มโครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวในวันพุธที่ผ่านมา เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศที่ซบเซาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเดินหน้าโครงการ "Go To Travel" ซึ่งรัฐบาลจะช่วยค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวบางส่วน แม้หลายฝ่ายกังวลกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รอบใหม่ อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวนั้นไม่รวมโตเกียวซึ่งพบการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เยอรมนีมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากสถาบัน GfK ขณะที่สหรัฐเตรียมเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board

ส่วนในวันพรุ่งนี้ อังกฤษจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Gfk, ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต/ซีไอพีเอส ขณะที่ฝรั่งเศส เยอรมนี EU และสหรัฐ มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ค.จากมาร์กิต นอกจากนี้ สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.ด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ