World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 29 กรกฎาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 29, 2020 09:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลกจับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ 30 ก.ค.ตามเวลาไทย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมครั้งนี้ และคาดว่าเฟดจะยืนยันการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปในช่วงหลายปีข้างหน้า

-- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงกว่า 200 จุด เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในประเด็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวลงในเดือนก.ค. รวมทั้งผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดร่วงลง

-- พรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวยังคงเดินหน้าเจรจากันเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการช่วยเหลือคนว่างงานซึ่งจะหมดอายุสิ้นเดือนนี้

นายมิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกันกล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ซึ่งมีวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์จะมุ่งเน้นในการช่วยเหลือเด็กๆ ให้กลับเข้าเรียนในโรงเรียนอีกครั้ง และช่วยเหลือพนักงานให้สามารถกลับเข้าทำงาน อีกทั้งปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน

อย่างไรก็ดี พรรคเดโมแครตได้คัดค้านข้อเสนอในการปกป้องบริษัทเอกชนไม่ให้ถูกฟ้องร้องทางกฎหมายเกี่ยวกับหนี้สิน ในขณะที่นายแมคคอนเนลยืนกรานว่า เขาจะไม่ยื่นร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับนี้ต่อวุฒิสภาหากไม่รวมข้อเสนอดังกล่าวเอาไว้ด้วย นอกจากนี้ ทั้งสองพรรคยังมีความเห็นที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือผู้ว่างงาน โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้รักษาวงเงินดังกล่าวไว้ที่ระดับ 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ แต่พรรครีพับลิกันต้องการให้ปรับลดลงมาอยู่ที่ 200 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงในเดือนก.ค. อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่หนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,944.6 ดอลลาร์/ออนซ์

-- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 92.6 ในเดือนก.ค. จากระดับ 98.3 ในเดือนมิ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 94.5

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ปรับตัวขึ้นจาก 86.7 ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 94.2 ในเดือนก.ค. ขณะที่ดัชนีความคาดหวังของผู้บริโภคร่วงลงจาก 106.1 ในเดือนมิ.ย. สู่ระดับ 91.5 ในเดือนก.ค.

-- จีนตัดสินใจระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ฮ่องกงทำกับแคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ เพื่อเป็นการตอบโต้ที่ทั้งสามประเทศระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงก่อน

นายหวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า ก่อนหน้านี้ แคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ ประกาศระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับฮ่องกงแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของจีน ทั้งยังละเมิดกฎหมายและบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งจีนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการกระทำดังกล่าว

นายหวังกล่าวว่า แคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ นำเรื่องความร่วมมือทางกฎหมายกับฮ่องกงมาทำเป็นเรื่องการเมือง ซึ่งทำลายพื้นฐานความร่วมมือด้านนี้อย่างร้ายแรง ด้วยเหตุนี้ จีนจึงตัดสินใจระงับสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่ฮ่องกงทำกับแคนาดา ออสเตรเลีย และอังกฤษ

-- ศาลมาเลเซียตัดสินจำคุกนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นเวลา 12 ปี และสั่งปรับ 210 ล้านริงกิต (ราว 49 ล้านดอลลาร์) หลังจากชี้ว่านายนาจิบมีความผิดทั้ง 7 ข้อหาในคดีกองทุน 1MDB

โมฮัด นัซลาน โมฮัด กาซาลี ผู้พิพากษาศาลสูงแห่งกรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้มีการพิจารณาหลักฐานทั้งหมดแล้วพบว่า อัยการมีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ว่า นายนาจิบมีความผิดทั้ง 7 ข้อหา

ทั้งนี้ อัยการได้ยื่นฟ้องให้ดำเนินคดีนายนาจิบทั้งหมด 7 ข้อหา ซึ่งรวมถึงการทำผิดหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย การใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ และการฟอกเงิน

อัยการระบุว่า เงินจำนวน 42 ล้านริงกิต (9.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากกองทุน SRC International ซึ่งเคยเป็นหน่วยงานหนึ่งของกองทุน 1MDB ได้ถูกโอนไปยังบัญชีส่วนตัวของนายนาจิบในขณะที่ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีคลัง และที่ปรึกษากองทุน 1MDB

-- ในวันนี้ สหรัฐมีกำหนดการเปิดเผยยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รวมถึงการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะตรงกับช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. ตามเวลาไทย

ส่วนในวันพรุ่งนี้เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.ค. เยอรมนีจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.ค. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนก.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. และอัตราว่างงานเดือนมิ.ย. ด้านสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563 (ประมาณการเบื้องต้น)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ