นายมาซาทากะ มิยาโซโน ประธานกองทุนบำเหน็จบำนาญของรัฐบาลญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยว่า ทางกองทุนกำลังจับตานโยบายเศรษฐกิจมหภาคทั่วโลกอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่ที่โรคโควิด-19 ได้แพร่ระบาด เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังที่ประเทศต่าง ๆ ประกาศใช้นั้นอาจกระทบตลาด
นอกจากนี้ ประธาน GPIF ยังกล่าวถึงกรณีที่ฟิทช์ เรทติ้งส์ หั่นแนวโน้มเครดิตญี่ปุ่นสู่เชิงลบด้วยว่า ขณะนี้ทางกองทุนยังไม่มีความกังวลมากนัก แต่ก็ต้องจับตาต่อไปในฐานะนักลงทุนรายหนึ่ง โดยเมื่อวานนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ปรับลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงสู่ "เชิงลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" และระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวลงอย่างรุนแรง เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาด
ทั้งนี้ GPIF ประสบภาวะขาดทุนสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 17.71 ล้านล้านเยน (1.65 แสนล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 1/2563 หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวลงจากแรงเทขายท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
แถลงการณ์ระบุว่า GPIF มีผลตอบแทนติดลบ 10.71% จากการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหมดในไตรมาส 1/2563 เมื่อเทียบกับกำไร 4.61% ในไตรมาส 4/2562 ซึ่งการขาดทุนในไตรมาสแรกของปีนี้นั้นนับเป็นการขาดทุนรายไตรมาสครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ GPIF เริ่มบริหารสินทรัพย์ในตลาดในปี 2544
ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาผลตอบแทนการลงทุนของ GPIF อย่างใกล้ชิด เนื่องจาก GPIF เป็นกองทุนขนาดใหญ่ที่บริหารสินทรัพย์มูลค่าสูงถึง 150.6 ล้านล้านเยน ณ สิ้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา