World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 4, 2020 17:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทวิตเตอร์ อิงค์ เปิดเผยว่า บริษัทอาจถูกคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) สั่งปรับเป็นเงินราว 150-250 ล้านดอลลาร์ ฐานใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เช่น หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล เพื่อใช้ในการส่งโฆษณาให้กับผู้ใช้งาน

-- แกนนำพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสและเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าในการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจฉบับใหม่ แม้คณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจจะใช้อำนาจในการผลักดันมาตรการดังกล่าวแต่เพียงผู้เดียว หากยังไม่มีการบรรลุข้อตกลง

-- องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์ และหลายประเทศประเมินว่าอาจเป็นการพัฒนาอุปกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กที่สามารถบรรจุในหัวรบขีปนาวุธ

-- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า ณ วันจันทร์ที่ 3 ส.ค. จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 36 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 30 ราย และอีก 6 รายเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากต่างประเทศ

-- บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลีฉบับวันนี้ตีพิมพ์ข้อความระบุว่า จีนจะไม่ยอมให้สหรัฐ "ขโมย" บริษัทเทคโนโลยีของจีน และจะตอบโต้สหรัฐที่พยายามผลักดันให้บริษัท ByteDance ขายธุรกิจ TikTok ในสหรัฐให้กับบริษัทไมโครซอฟท์

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติเกาหลีใต้รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน และนับเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แม้ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด

-- บริษัทแอปเปิล อิงค์ ได้เข้าซื้อกิจการ Mobeewave ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการชำระเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนา iPhone ให้เป็นอุปกรณ์รับชำระเงิน

-- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

-- นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) เตือนว่า ขณะนี้โลกกำลังเผชิญกับวิกฤตทางการศึกษา ซึ่งเป็นผลจากการปิดโรงเรียนและสถาบันการศึกษาเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมกับแนะนำให้ทั่วโลกเร่งดำเนินการเพื่อให้กลับมาเปิดการเรียนการสอนได้อย่างปลอดภัย

-- กูเกิลได้ตกลงซื้อหุ้น 6.6% ของบริษัท ADT Inc ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบดูแลความปลอดภัยสำหรับที่พักอาศัยและธุรกิจ โดยข้อตกลงซื้อหุ้นวงเงิน 450 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของกูเกิลที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจฮาร์ดแวร์ของบริษัท และเพื่อใช้ประโยชน์จากการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยอัจฉริยะภายในที่อยู่อาศัย

-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า จีนได้เสนอชื่อตัวแทนชาวจีนเข้ารับตำแหน่งผู้พิพากษาของศาลระหว่างประเทศที่ทำหน้าที่ตัดสินข้อพิพาททางทะเล ขณะที่สหรัฐได้ออกโรงคัดค้านเรื่องดังกล่าว โดยโต้แย้งว่าจีนได้ฝ่าฝืนกฎหมายทะเลระหว่างประเทศซึ่งเกี่ยวกับข้อพิพาทในทะเลจีนใต้

-- นายหู สีจิน บรรณาธิการหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สของรัฐบาลจีน เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ @HuXijin_GT ว่า หากรัฐบาลสหรัฐไม่ต่ออายุวีซ่าให้นักข่าวจีนแล้ว ทางการจีนก็จะใช้มาตรการตอบโต้ โดยอาจพุ่งเป้าไปที่นักข่าวสหรัฐในฮ่องกง

-- ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสขององค์การอนามัยโลก (WHO) เปิดเผยว่า แม้มีรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบชนิดผิดปกติกลุ่มก้อนแรกในนครอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของจีน แต่ไม่ได้หมายความว่าอู่ฮั่นจะเป็นเมืองที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นต้นตอของโรคโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดข้ามจากสัตว์มาสู่คน

-- บีพี ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2563 ในวันนี้ ขาดทุน 6.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

-- บริษัทโซนี่ คอร์ป เปิดเผยคาดการณ์ผลกำไรสุทธิ อยู่ที่ 5.1 แสนล้านเยน (4.8 พันล้านดอลลาร์) ในปีงบการเงินปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2564 โดยลดลง 12.4% จากปีก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภาพยนตร์ และกล้องดิจิทัล

-- บริษัท Sola.com ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของญี่ปุ่นระบุว่า สแกมเมอร์ (ผู้ที่กระทำการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต) ได้ขโมยรายละเอียดบัญชีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กของชาวญี่ปุ่นกว่า 7,600 ราย และเก็บข้อมูลดังกล่าวไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ประเทศรัสเซีย

-- อินเดียทำสถิติพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันกว่า 50,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 6 ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศใกล้แตะ 1.9 ล้านรายแล้ว

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานผลสำรวจที่แสดงให้เห็นว่า ประชาชนประมาณ 60% ในญี่ปุ่นที่มีอาการคล้ายไข้หวัดในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบแรกระหว่างเดือนก.พ.-พ.ค. ยังคงเดินทางไปทำงาน แม้รัฐบาลจะขอให้คนที่ไม่สบายพักผ่อนอยู่กับบ้านก็ตาม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ