World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2563

ข่าวเศรษฐกิจ Friday August 7, 2020 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คณะทำงานที่ประกอบด้วยนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนายเจย์ เคลย์ตัน ประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ได้เสนอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิกถอนบริษัทจีนออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ หากบริษัทเหล่านั้นไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการตรวจสอบบัญชีของสหรัฐได้ภายในเดือนม.ค. 2565

-- ราคาหุ้นเฟซบุ๊กปิดตลาดพุ่งขึ้นถึง 6.49% เมื่อคืนนี้ หลังจากเปิดตัว Reels ซึ่งเป็นบริการใหม่ของอินสตาแกรมในสหรัฐ โดยเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่มีขึ้นเพื่อแข่งกับแอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอสัญชาติจีนอย่างติ๊กต็อก (TikTok) ซึ่งกำลังได้รับความนิยมทั่วโลก

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีห้ามไม่ให้บุคคลหรือบริษัทอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับบริษัทไบต์แดนซ์ (ByteDance) ซึ่งเป็นบริษัทแม่และเจ้าของ ติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีน โดยให้มีผลบังคับใช้ในอีก 45 วัน

-- สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวว่า การเจรจาของบริษัทไมโครซอฟท์เพื่อซื้อกิจการติ๊กต็อก (TikTok) แอปพลิเคชันแชร์คลิปวิดีโอชื่อดังสัญชาติจีนนั้น ยังคงมุ่งเน้นแค่ธุรกิจที่ดำเนินงานอยู่ในสหรัฐ, แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์เท่านั้น โดยไม่มีการพูดถึงธุรกิจของติ๊กต็อกในประเทศอื่นๆ

-- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐประกาศยกเลิกคำแนะนำการเดินทางระดับ 4 ซึ่งสั่งให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังต่างประเทศในช่วงที่โควิด-19 ระบาดตั้งแต่เมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา โดยกระทรวงฯ ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ตามเวลาสหรัฐ

-- รัฐบาลญี่ปุ่นคาดว่าจะบรรลุข้อตกลงกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ในเร็วๆ นี้ เพื่อซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 จำนวน 100 ล้านโดสที่ได้รับการพัฒนาโดยแอสตร้าเซนเนก้าร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด

-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้เปิดเผยว่า การเจรจาร่วมกับคณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 รอบใหม่นั้น มีความคืบหน้าบางส่วน และดำเนินไปในทางบวก อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงขัดแย้งกันอย่างมากในประเด็นสำคัญๆ เช่น การต่ออายุโครงการเงินช่วยเหลือคนว่างงาน

-- หุ้นของเทนเซ็นต์ (Tencent) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากจีน ร่วงลงกว่า 4% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นฮ่องกงช่วงเช้าวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ สั่งแบนวีแชท (WeChat) ในข้อหาเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคล

-- แคนาดาประกาศจะใช้มาตรการตอบโต้ หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ สั่งเก็บภาษีอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากแคนาดาในอัตรา 10% โดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงของชาติ

-- กระทรวงฝ่ายกิจการภายในประเทศและการสื่อสารของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 1.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และเป็นการทำสถิติปรับตัวลง 9 เดือนติดต่อกัน โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

-- สำนักงานภาษีของอินโดนีเซียเปิดเผยแถลงการณ์ในวันนี้ระบุว่า รัฐบาลอินโดนีเซียจะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่อัตรา 10% กับบริษัทเฟซบุ๊ก, ดิสนีย์ และ ติ๊กต็อก (TikTok) สำหรับการขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าชาวอินโดนีเซีย

-- คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ตัดสินใจในวันนี้ที่จะใช้เงิน 1.13 ล้านล้านเยน (1.07 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ) จากกองทุนสำรองของญี่ปุ่นเพื่อดำเนินมาตรการชดเชยผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

-- กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและอินเดียเห็นชอบที่จะจัดการประชุม 4 ฝ่ายร่วมกับญี่ปุ่นและออสเตรเลียในช่วงต่อไปของปีนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานระหว่างสหรัฐกับจีน

-- นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศว่า ฮ่องกงจะให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ฟรีแก่ประชาชนทุกคน ซึ่งความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นผลมาจากการสนับสนุนของจีนที่พยายามช่วยทางการฮ่องกงควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่ฮ่องกงกลับมามีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงเดือนที่ผ่านมา

-- เฟซบุ๊กจะอนุญาตให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้จนถึงเดือนก.ค. 2564 เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และจะมอบเงินสนับสนุนให้อีก 1,000 ดอลลาร์สำหรับปรับปรุงบ้านให้พร้อมทำงาน

-- ทางการอินเดียได้ยึดแอมโมเนียมไนเตรทซึ่งเป็นสารที่ไวต่อการระเบิดและเป็นต้นตอของเหตุการณ์ระเบิดรุนแรงในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนเมื่อเร็วๆ นี้ โดยยึดได้ประมาณ 740 ตันที่เมืองเจนไนทางตอนใต้ของประเทศ

-- แพทย์ฝึกหัดในเกาหลีใต้กว่าหมื่นคนนัดกันหยุดงานในวันนี้เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อแผนการของรัฐบาลที่จะเพิ่มจำนวนนักศึกษาแพทย์ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์โดยไม่จำเป็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ