World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 10, 2020 09:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลงอย่างหนักในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากการที่ประชาชนต้องทำงานจากที่บ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการระบาดของโควิด-19 ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงหุ้นไมโครซอฟท์ และแอมะซอนดอทคอม

-- จับตาการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า รายงานคาดการณ์ผลผลิตและเงินเฟ้อของ ECB จะมีการทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของยูโรโซน และการบริโภคของภาคเอกชนในปีนี้

รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ในวันนี้

-- ธนาคารกลางแคนาดาประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ ธนาคารกลางยังได้ส่งสัญญาณตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าว จนกว่าอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสู่เป้าหมายของทางธนาคารกลาง

ทั้งนี้ ธนาคารกลางได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับ 1.75% สู่ระดับ 0.25% นับตั้งแต่เดือนมี.ค. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ทำให้รัฐบาลใช้มาตรการล็อกดาวน์ จนทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก

ธนาคารกลางยังระบุว่า พร้อมที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ ซึ่งรวมถึงการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า ณ เวลา 17.28 น. ของวันพุธตามเวลาสหรัฐ หรือ 04.28 น.ของวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย ยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกพุ่งขึ้นทะลุ 900,000 ราย

รายงานดังกล่าวระบุว่า ขณะนี้ทั่วโลกมียอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 อยู่ที่ 900,079 ราย และมียอดผู้ติดเชื้อกว่า 27.6 ล้านราย

สหรัฐยังคงเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 6,356,310 ราย และผู้เสียชีวิตจำนวน 190,649 ราย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่า 1 ใน 5 ของจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลก

บราซิลมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับสองของโลก โดยอยู่ที่ 127,464 ราย ตามด้วยอินเดียอยู่ที่ 73,890 ราย ส่วนในแง่ของจำนวนผู้ติดเชื้อนั้น อินเดียแซงหน้าบราซิลเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อจากไวรัสโควิด-19 มากเป็นอันดับ 2 ของโลกแล้ว โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 4.3 ล้านราย

-- นายแพทย์ฟรานซิส คอลลินส์ จากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐ (NIH) กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของ NIH จะไม่ข้ามขั้นตอนประเมินความปลอดภัยในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

นายแพทย์คอลลินส์กล่าวว่า การตรวจสอบความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของวัคซีนต้านโควิด-19 ถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดของ NIH โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อทบทวนการทดสอบทางคลินิก และจับตาผลการทดลองเพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้เข้าร่วมโครงการจะมีความปลอดภัย

คำกล่าวของนายแพทย์คอลลินส์มีขึ้นหนึ่งวัน หลังจากที่มีรายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ได้ระงับโครงการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 หลังจากที่อาสาสมัครรายหนึ่งมีอาการอักเสบที่ระบบประสาทในไขสันหลังอย่างรุนแรง หลังได้รับการฉีดวัคซีนดังกล่าว

ทางด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐกล่าวว่า การที่บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไม่ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะสิ่งนี้เป็นมาตรการความปลอดภัยที่ใช้ในการทดลองทางคลินิก พร้อมกับแสดงความหวังว่าทางบริษัทจะสามารถแก้ปัญหาและกลับมาดำเนินการทดลองต่อไป

-- หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์รายงานว่า บริษัทแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) ซึ่งเป็นผู้ผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ จะกลับมาดำเนินการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ต่อไปในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ออกมาประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในเฟสที่ 3 หลังพบผู้เข้าร่วมโครงการรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ

-- สำนักข่าวเกียวโดรายงานการเปิดเผยของสื่อสหรัฐว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ตระหนักดีว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งเป็นต้นตอของโรคโควิด-19 นั้นร้ายแรงและระบาดง่ายเพียงใด แต่เขาจงใจไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวต่อหน้าประชาชน

รายงานข่าวดังกล่าวอ้างข้อมูลจากบันทึกเสียงเมื่อเดือนก.พ.ที่มีขึ้นเพื่อใช้เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งหนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์และสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รับคลิปเสียงนี้

ความเคลื่อนไหวนี้อาจส่งผลกระทบต่อแคมเปญหาเสียงของปธน.ทรัมป์ เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัยในการเลือกตั้งเดือนพ.ย. จากเดิมที่ถูกวิจารณ์เรื่องการรับมือการแพร่ระบาดอยู่แล้ว โดยโรคโควิด-19 นั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 190,000 รายในสหรัฐ และยังทำให้เศรษฐกิจซบเซาลงอย่างหนักด้วย

-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ ขณะที่สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค. เยอรมนีเตรียมเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค. อังกฤษจะเปิดเผยดุลการค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ