World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 23, 2020 10:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 359 ต่อ 57 เสียง ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายชั่วคราวเมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (ชัตดาวน์) ก่อนที่งบประมาณรายจ่ายประจำปีจะหมดอายุลงในวันที่ 30 ก.ย.นี้

ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวซึ่งจะถูกส่งให้กับวุฒิสภาสหรัฐพิจารณาเป็นลำดับต่อไปนั้น จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐยังคงสามารถเปิดดำเนินการและมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 11 ธ.ค.ปีนี้ อีกทั้งยังทำให้สภาคองเกรสมีเวลามากพอที่จะตัดสินใจว่าควรจะผ่านกฎหมายงบประมาณประจำปีก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในเดือนพ.ย.นี้หรือไม่

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 140.48 จุด หรือ +0.52% เมื่อคืนนี้ (22 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นแอมะซอนดอทคอมที่ทะยานขึ้นเกือบ 5.7% นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดมีกำหนดเข้าให้ข้อมูลต่อคณะอนุกรรมการประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในวันพุธตามเวลาสหรัฐ และจะเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ

ส่วนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายพาวเวลได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเกี่ยวกับการดำเนินการของเฟดและรัฐบาลสหรัฐในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐกำลังฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่จะฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในขณะนี้ และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง และลดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ

-- ราคาหุ้นเทสลา ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลงเกือบ 7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังจากที่ปิดตลาดร่วงลง 5.6% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเทสลา กล่าวว่า แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ที่เปิดตัวในงาน "Battery Day" นั้น จะยังไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากจนกว่าจะถึงปี 2565

-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า สหรัฐเผชิญความเสี่ยงที่จะมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ล่าช้า หรืออาจเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย หากสภาคองเกรสไม่สามารถอนุมัติมาตรการทางการคลังในการเยียวยาชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นายอีแวนส์คาดว่าอัตราว่างงานในสหรัฐจะปรับตัวลงสู่ระดับ 5.5% ในปลายปีหน้า

นายอีแวนส์ยังระบุว่า เขาไม่คาดว่าเฟดจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้

-- นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศใช้มาตรการเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งได้แก่ การให้ประชาชนทำงานจากที่บ้าน หากสามารถทำได้, ผับและร้านอาหารจะต้องปิดร้านตั้งแต่เวลา 22.00 น. โดยเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้, ประชาชนห้ามรวมกลุ่มกันมากกว่า 6 คน, มีการกำหนดสถานที่มากขึ้นที่บังคับให้ประชาชนจะต้องสวมหน้ากากอนามัย และมีการกำหนดบทลงโทษสำหรับภาคธุรกิจและประชาชนที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาล

นายจอห์นสันยังเตือนว่า รัฐบาลอังกฤษจะบังคับใช้มาตรการดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือน หากยังไม่มีความคืบหน้าใหม่ๆในด้านการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 และรัฐบาลจะใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น

-- นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ยืนยันว่า แถลงการณ์ในการประชุมครั้งล่าสุดของ BoE ไม่ได้ส่งสัญญาณว่า BoE จะมีการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

"แถลงการณ์ไม่ได้บ่งชี้ความเป็นไปได้ที่เราจะใช้เครื่องมือนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ" นายเบลีย์กล่าว

นอกจากนี้ นายเบลีย์ยังกล่าวด้วยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังสร้างความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของอังกฤษ และ BoE จะทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ในแถลงการณ์หลังการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 17 ก.ย. BoE ระบุว่า ทางธนาคารกลางได้รับการบรรยายสรุปเกี่ยวกับการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมีประสิทธิภาพ หากแนวโน้มเงินเฟ้อและการผลิตบ่งชี้ว่า BoE มีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายดังกล่าว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำในขณะนี้

-- แหล่งข่าวระบุว่า นายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าผู้แทนเจรจาการค้าฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) จะเดินทางมายังกรุงลอนดอนในวันนี้เพื่อทำการเจรจาการค้าอย่างไม่เป็นทางการกับอังกฤษ

ก่อนหน้านี้ นายบาร์นิเยร์จัดการเจรจาการค้ากับนายเดวิด ฟรอส ผู้แทนการเจรจาฝ่ายอังกฤษ ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นการเจรจาเป็นรอบที่ 8 แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

นายบาร์นิเยร์กล่าวว่า EU ได้แสดงความยืดหยุ่นต่ออังกฤษเกี่ยวกับข้อเรียกร้องด้านการประมง และในด้านอื่นๆ แต่ทางฝ่ายอังกฤษไม่ได้แสดงท่าทีตอบรับแต่อย่างใด

นายบาร์นิเยร์ยังกล่าวว่า EU กำลังเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อังกฤษอาจแยกตัวออกจาก EU ในปลายปีนี้โดยไม่มีการทำข้อตกลง (no-deal Brexit)

"ทุกคนไม่ควรประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ no-deal Brexit" นายบาร์นิเยร์กล่าว

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความระบุว่า เขาจะเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดแทนนางรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก ในวันเสาร์นี้ โดยเขาจะประกาศรายชื่อดังกล่าวที่ทำเนียบขาว

ปธน.ทรัมป์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขากำลังพิจารณารายชื่อบุคคลจำนวน 5 ราย โดยผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่ออาจเป็นผู้หญิง

อย่างไรก็ดี ว่าที่ผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่ได้รับการเสนอชื่อจากปธน.ทรัมป์ยังต้องผ่านการรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐ ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตคัดค้านท่าทีของปธน.ทรัมป์ในการเร่งรีบเสนอชื่อดังกล่าว โดยมองว่าการเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ควรมีขึ้นหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย. เพื่อให้ประธานาธิบดีคนใหม่เป็นคนดำเนินการเสนอชื่อ

-- แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น จะสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีน ในวันศุกร์นี้

การเจรจาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่น

นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองจะหารือกันเกี่ยวกับการเดินทางเยือนญี่ปุ่นของปธน.สี จิ้นผิง หลังจากที่มีการเลื่อนการเดินทางออกไปในช่วงต้นปีนี้ อันเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ มาร์กิตมีกำหนดการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.ของฝรั่งเศส, เยอรมนี, อียู และสหรัฐ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.ของอังกฤษซึ่งมาร์กิตทำร่วมกับซีไอพีเอส เยอรมนีมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Gfk และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยรายงานการประชุม เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจเดือนก.ย.จาก Ifo และสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์และยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ