ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,584.06 จุด พุ่งขึ้น 410.10 จุด หรือ +1.51% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,351.60 จุด เพิ่มขึ้น 53.14 จุด หรือ +1.61% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,117.53 จุด เพิ่มขึ้น 203.97 จุด หรือ +1.87%
-- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรคเดโมแครตได้เปิดเผยมาตรการเยียวยาผลกระทบจากโรคโควิด-19 วงเงิน 2.2 ล้านล้านดอลลาร์แล้วเมื่อวานนี้ โดยหวังที่จะผ่าทางตันในการเจรจาก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี แม้มาตรการดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะถูกคัดค้านในวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก หากมาตรการดังกล่าวผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนฯก็ตาม
มาตรการเยียวยาที่สภาคองเกรสอนุมัติไปก่อนหน้านี้ได้หมดอายุลงแล้ว และขณะนี้ชาวอเมริกันหลายล้านคนกำลังรอความช่วยเหลือเร่งด่วนดังกล่าว
-- ศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานในวันนี้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้นทะลุระดับ 1 ล้านรายแล้วเมื่อวานนี้
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า บริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้แจ้งกับพนักงานหลายพันคนในฝ่ายธุรกิจที่เกี่ยวกับผู้บริโภคในสหรัฐว่า พวกเขาสามารถวางแผนที่จะทำงานจากที่บ้านได้ไปจนถึงปีหน้า โดยคำสั่งดังกล่าวไม่รวมถึงพนักงานประจำสาขา และในส่วนปฏิบัติการ
เมื่อต้นเดือนนี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า เจพีมอร์แกนได้สั่งให้พนักงานหลายคนในแมนฮัตตันทำงานที่บ้าน หลังจากพบพนักงานรายหนึ่งในแผนกซื้อขายหุ้นติดเชื้อโควิด-19
-- บริษัทแอมะซอน ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ ประกาศจัดงาน Prime Day 2020 ในวันที่ 13-14 ต.ค.
ที่ผ่านมา แอมะซอนมักจัดงาน Prime Day ในเดือนก.ค. แต่ในปีนี้ได้ล่าช้าออกไป โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ Prime Day เป็นวันช็อปปิ้งระดับโลกที่แอมะซอนจัดขึ้น โดยมีการลดราคาสินค้าอย่างมากสำหรับสมาชิก Prime จำนวนนับล้านรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปี
-- สำนักข่าว BBC รายงานว่า มหาวิทยาลัย 40 แห่งจากทั้งหมด 130 แห่งในอังกฤษ ได้รายงานการตรวจพบนักศึกษาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้มีการกักตัวนักศึกษาหลายพันคนในมหาวิทยาลัย หลังเปิดภาคเรียนใหม่ได้เพียงไม่กี่วัน
ทางด้านสกายนิวส์รายงานว่า มีการตรวจพบนักศึกษาจำนวนมากกว่า 700 คนมีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก นับตั้งแต่มีการเปิดมหาวิทยาลัยในช่วงต้นเดือนนี้
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุเตือนว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก มีแนวโน้มเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าความเป็นจริง
"เมื่อคุณนับอะไรก็ตาม คุณไม่สามารถนับได้อย่างครบถ้วน และผมสามารถบอกได้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแนวโน้มที่จะเป็นตัวเลขต่ำเกินจริง" นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินของ WHO กล่าว
-- นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า ขณะนี้สหรัฐไม่ใช่สถานที่ที่น่าอยู่ ขณะที่ฤดูหนาวกำลังใกล้เข้ามา และจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนมากกว่า 40,000 รายทุกวัน
มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ รายงานว่า สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 9% ในสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 44,300 รายเมื่อวานนี้
-- นายจ้าง เซียงเฉิน เอกอัครราชทูตจีนประจำองค์การการค้าโลก (WTO) ขานรับคำตัดสินของ WTO ที่ระบุว่า การที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่ามากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2561 ถือเป็นการละเมิดกฎระเบียบการค้าระหว่างประเทศ
"เราเห็นว่าคำตัดสินของ WTO ไม่มีอคติและยุติธรรม ซึ่งเราหวังว่าคำตัดสินนี้จะช่วยแก้ไขข้อพิพาทระหว่างจีนและสหรัฐ" นายจ้างกล่าว
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากสินค้านำเข้าจากจีน โดยอ้างว่าจีนได้ดำเนินการทางการค้าที่กระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และการถ่ายโอนเทคโนโลยี
-- นายโยชิโร โมริ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะเดินหน้าจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกในปีหน้า "ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น" โดยนายโมริกล่าวว่า มาตรการที่รัฐบาลญี่ปุ่นมีการดำเนินการในขณะนี้จะทำให้การจัดการแข่งขันมีความปลอดภัย แม้มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทางด้านนายโทมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) แสดงความเชื่อมั่นต่อการที่ญี่ปุ่นจะจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในปีหน้า แม้สถานการณ์ทั่วโลกยังคงมีความไม่แน่นอน
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนก.ย., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ขณะที่อียูเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนส.ค., ดัชนีราคาบ้านเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ย.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ จีนเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS), ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.จากไฉซิน, อังกฤษเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563, เยอรมนีเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค., อัตราว่างงานเดือนก.ย. และสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.ย.จาก ADP, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2563, กำไรภาคเอกชนไตรมาส 2/2563, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ย., ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)