World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 6, 2020 08:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 28,000 จุดเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) ขานรับข่าวประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้น และล่าสุดได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโรคโควิด-19 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมทั้งรายงานดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,148.64 จุด เพิ่มขึ้น 465.83 จุด หรือ +1.68% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,332.49 จุด เพิ่มขึ้น 257.47 จุด หรือ +2.32% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,408.63 จุด เพิ่มขึ้น 60.19 จุด หรือ +1.80%

-- ดีบีเอส กรุ๊ป และสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เป็นแกนนำกลุ่มธนาคารอื่นๆ อีก 12 แห่งในสิงคโปร์ในการจัดตั้งและดำเนินการเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนธุรกรรมการเงินเพื่อการค้าระบบดิจิทัล โดยมีเป้าหมายที่จะลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงด้านการค้า

ทั้งนี้ มีความเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อที่จะปรับปรุงความโปร่งใสของอุตสาหกรรมการเงิน หลังจากที่มีการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมากในสิงคโปร์ในปีนี้

-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ออกจากศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์ รีดแล้วในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยด้วยโรคโควิด-19 เป็นเวลา 4 วัน โดยปธน.ทรัมป์ซึ่งสวมหน้ากากอนามัยด้วยนั้น เดินออกจากศูนย์การแพทย์ทางประตูด้านหน้า และขึ้นเฮลิคอปเตอร์ "Marine One" เพื่อมุ่งหน้าไปยังทำเนียบขาว โดยก่อนที่ปธน.ทรัมป์จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์นั้น เขายืนยันว่ามีความพร้อมที่จะกลับไปรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากในขณะนี้มีเวลาไม่ถึง 1 เดือนก่อนที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.นี้

รายงานล่าสุดระบุว่า ขณะนี้เฮลิคอปเตอร์ Marine One นำปธน.ทรัมป์ถึงทำเนียบขาวแล้ว และปธน.ทรัมป์ยังคงต้องรับการรักษาโรคโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยนายแพทย์ฌอน คอนลีย์ แพทย์ประจำทำเนียบขาว แถลงว่า ปธน.ทรัมป์ "มีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง" ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่คณะแพทย์ก็ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

-- นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาว กล่าวว่า มีแนวโน้มสูงที่ทำเนียบขาวจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มุ่งมั่นที่จะผลักดันให้มีข้อตกลงดังกล่าว

นายมีโดวส์กล่าวว่า ในช่วงที่ปธน.ทรัมป์เข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19 ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันศุกร์ เขาก็ได้ทำการติดต่ออย่างใกล้ชิดกับนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ และนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- นายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโครงการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวเตือนว่า ตัวเลขประมาณการที่ดีที่สุดของ WHO ระบุว่า ขณะนี้ประชากรราว 1 ใน 10 ของทั่วโลกได้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ซึ่งสูงกว่าตัวเลขที่มีการรายงานกว่า 20 เท่า

หากประชากรราว 1 ใน 10 ของทั่วโลกติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะหมายความว่า ขณะนี้มีประชากรมากกว่า 760 ล้านคนทั่วโลกที่ติดเชื้อโควิด-19 จากจำนวนประชากรทั้งหมด 7,600 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีการรายงานจาก WHO และมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ที่ระดับมากกว่า 35 ล้านคน

-- นางเคย์ลีจ์ แมคเอนนานี โฆษกทำเนียบขาว ทวีตข้อความในวันนี้ระบุว่า เธอได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งผลออกมาเป็นบวก "หลังจากที่ดิฉันมีผลตรวจออกมาเป็นบวก ดิฉันก็จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว และจะยังคงทำงานต่อไปสำหรับชาวอเมริกัน" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ

การเปิดเผยผลตรวจเชื้อโควิด-19 ของนางแมคเอนนานีมีขึ้น ขณะที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และคณะแพทย์จะทำการหารือกันในวันนี้ เพื่อพิจารณาว่าปธน.ทรัมป์จะสามารถออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ได้หรือไม่ หลังจากเข้ารับการรักษาอาการป่วยจากโควิด-19

-- Cineworld ซึ่งเป็นบริษัทในธุรกิจโรงภาพยนตร์ของสหราชอาณาจักร และเป็นเครือข่ายโรงภาพยนตร์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แถลงในวันนี้ว่า ทางบริษัทจะปิดโรงภาพยนตร์ทั้งหมดในสหราชอาณาจักรและสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการปลดพนักงานมากถึง 45,000 ตำแหน่ง

ทั้งนี้ Cineworld จะปิดโรงภาพยนตร์ Regal ทั้งหมด 536 แห่งในสหรัฐในวันที่ 8 ต.ค. และโรงภาพยนตร์ Cineworld และ Picturehouse จำนวน 127 แห่งในสหราชอาณาจักร

-- ทำเนียบนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสประกาศยกระดับการเตือนภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกรุงปารีส สู่ระดับสูงสุดในวันนี้ โดยจะมีการบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้

มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้มีการปิดบาร์ ขณะที่ร้านอาหารจะต้องดำเนินการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ พนักงานบริษัทควรทำงานจากที่บ้าน และมหาวิทยาลัยควรเปิดให้นักศึกษาเข้าชั้นเรียนไม่เกิน 50%

-- ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (TSE) แถลงเมื่อวานนี้ว่า การที่ระบบซื้อขายหุ้นล่มเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาเกิดจากปัญหาขัดข้องของระบบหน่วยความจำ ซึ่งทำให้ไม่สามารถปรับเข้าสู่ระบบซื้อขายสำรอง

"ระบบควรจะปรับไปใช้ระบบสำรองโดยอัตโนมัติในกรณีที่ฮาร์ดแวร์มีปัญหา แต่ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากหน่วยความจำขัดข้อง" นายยาซูฮิโกะ ทามูระ ผู้อำนวยการระบบซื้อขายในส่วนการพัฒนาของ TSE กล่าว

อย่างไรก็ดี นายทามูระกล่าวว่า TSE จะยังคงสอบสวนปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป โดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และจะพิจารณามาตรการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก

-- กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยวานนี้ว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 2,291 ราย ส่งผลให้ขณะนี้ฟิลิปปินส์มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 324,762 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงที่สุดในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)

ขณะเดียวกัน กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวน 64 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 5,840 ราย

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.ย., ออสเตรเลียเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค., เยอรมนีเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค. ขณะที่สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดุลการค้าเดือนส.ค. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนส.ค.

ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ย., ญี่ปุ่นเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนก.ย., เยอรมนีเปิดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค., อังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนก.ย.จากฮาลิแฟกซ์, สหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) (เช้าวันที่ 8 ต.ค.) เปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 15-16 ก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ