ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในช่วงเช้านี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ
ณ เวลา 07.06 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 98 จุด หรือ 0.35% แตะที่ 28,091 จุด หลังจากที่ร่วงลงกว่า 150 จุด ในช่วงก่อนหน้านั้น
-- สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐยังคงน่ากังวล โดยศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่กว่า 83,000 รายทั้งในวันศุกร์และในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะในวันศุกร์ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 83,700 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แซงสถิติเมื่อกลางเดือนก.ค. ซึ่งขณะนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ 77,300 ราย
ตัวเลขดังกล่าวทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า ฤดูหนาวในปีนี้จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงอีก โดยนพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวเตือนว่า สหรัฐจะเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้
-- นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเปิดเผยว่า เธอกำลังรอคอยว่า ในวันนี้ทำเนียบขาวจะยอมรับเงื่อนไขของพรรคเดโมแครตเพื่อบรรลุข้อตกลงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือไม่
นางเพโลซีกล่าวให้สัมภาษณ์ทางรายการ "State of the Union" ทางสถานีโทรทัศน์ CNN ในวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า เธอได้ขอให้นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่พรรคเดโมแครตยังคงกังวล ซึ่งรวมถึงประเด็นการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และประเด็นการศึกษา
"เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เราได้ส่งประเด็นต่างๆที่เรายังคงกังวลไปให้กับคุณมนูชินได้รับทราบ และดิฉันคิดว่าเขาจะทบทวนเรื่องดังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ และจะให้คำตอบกับเราในวันนี้ เรายังคงรอคอยคำตอบในขั้นสุดท้าย" นางเพโลซีกล่าว
-- หนังสือพิมพ์โยมิอุริของญี่ปุ่นรายงานว่า เอเอ็นเอ โฮลดิ้ง (ANA) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินออล นิปปอน แอร์เวย์ เตรียมปลดพนักงานประมาณ 3,500 ตำแหน่งภายในปีงบการเงิน 2565 โดยคาดว่าจะประกาศแผนการดังกล่าวในวันอังคารที่ 27 ต.ค.
การปลดพนักงานครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อปรับลดต้นทุนด้านแรงงานหลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยต้นทุนด้านแรงงานนั้นคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของรายจ่ายทั้งหมด
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีแผนย้ายพนักงานไปทำงานบริษัทอื่นเป็นเวลาชั่วคราวด้วย ซึ่งรายงานข่าวระบุว่าจะย้ายไปทำงานกับบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ
-- นายมาร์ค ชอร์ท ผู้ช่วยของนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ มีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในหมู่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้
แถลงการณ์จากทีมผู้ช่วยของรองประธานาธิบดีสหรัฐยืนยันว่า นายชอร์ทมีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก ส่วนนายเพนซ์มีผลการตรวจเป็นลบ และจะเดินหน้ารณรงค์หาเสียงให้กับปธน.ทรัมป์ต่อไป ภายใต้การให้คำแนะนำจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC)
-- นายชัคติคานตา ดาส ผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดีย มีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก แต่จะยังคงทำหน้าที่ผู้ว่าการธนาคารกลางต่อไปในระหว่างการกักตัว เพื่อให้การปฏิบัติงานยังคงดำเนินไปตามปกติ
"ผมมีผลตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นบวก โดยผมติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ และขณะนี้ร่างกายของผมก็แข็งแรงดี" นายดาสเปิดเผยผ่านบัญชีโซเชียลมีเดียในวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น
นายดาสเปิดเผยว่า เขายังคงติดต่อสื่อสารกับรองผู้ว่าการธนาคารกลางอินเดียและเจ้าหน้าที่ทุกคนผ่านทางวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และทางโทรศัพท์
-- ข้อมูลจาก Reuters tally บ่งชี้ว่า ภูมิภาคเอเชียมียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เกิน 10 ล้านคนในวันนี้ (24 ต.ค.) ซึ่งนับเป็นภูมิภาคที่มีผู้ติดเชื้อโควิดมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากลาตินอเมริกา ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังคงเพิ่มขึ้นในอินเดีย
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียมียอดติดโควิดคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของยอดติดเชื้อทั่วโลกรวม 42.1 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากโควิดในเอเชียกว่า 163,000 ราย หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 14% ของทั้งโลก
อินเดียเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุดในเอเชียใต้ ขณะที่อินโดนีเซียเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากที่สุด โดยพุ่งแซงหน้าฟิลิปปินส์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
-- บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและความปลอดภัยในการวิจัย (Data and Safety Monitoring Board - DSMB) ได้แนะนำให้ J&J เริ่มรับอาสาสมัครเพื่อเข้าร่วมการทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ได้อีกครั้ง หลังจากไม่พบหลักฐานว่า วัคซีนของ J&J ทำให้อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองล้มป่วย
นายพอล สตอฟเฟลส์ ซีอีโอของ J&J คาดว่า การทดลองวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของ J&J จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในสหรัฐในวันจันทร์หรืออังคารนี้ และคาดว่าจะได้รับข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนจากการทดลองภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า
นอกจากนี้ J&J ยังได้หารือกับหน่วยงานควบคุมด้านกฎระเบียบอื่นๆ เพื่อเริ่มการทดลองวัคซีนโควิดนอกสหรัฐด้วย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยญี่ปุ่นเตรียมเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนส.ค. ขณะที่เยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนต.ค.จากสถาบัน Ifo ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนก.ย.จากเฟดชิคาโก และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 ขณะที่จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ย. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย., ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จาก Conference Board