สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นรายงานในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานซึ่งไม่รวมเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภค ลดลง 4.4% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. ซึ่งเป็นการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอื่นๆ ชะลอการฟื้นตัว
ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรซึ่งเป็นดัชนีวัดการใช้จ่ายด้านทุนของญี่ปุ่น มีมูลค่ารวม 7.193 แสนล้านเยน (6.8 พันล้านดอลลาร์)
อย่างไรก็ดี แม้ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 6.3% และ 0.2% ในเดือนก.ค.และส.ค.ตามลำดับ แต่ก็ยังไม่ถึงระดับก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีมูลค่าการสั่งซื้อกว่า 8 แสนล้านเยนอย่างต่อเนื่อง
รายงานระบุว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากบริษัทในภาคการผลิต ปรับตัวขึ้น 2.0% แตะที่ 3.174 แสนล้านเยน หลังจากที่ลดลง 0.6% ในเดือนส.ค. หลังได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบริษัทด้านเคมีภัณฑ์
ส่วนยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากบริษัทนอกภาคการผลิต ปรับตัวขึ้น 3.2% แตะที่ 4.2529 แสนล้านเยน หลังลดลง 6.9% ในเดือนส.ค. โดยได้รับอานิสงส์จากยอดสั่งซื้อในภาคบริการสื่อสารโทรคมนาคม, บริการการเงิน และประกันภัย
ขณะที่คำสั่งซื้อจากต่างประเทศซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดการส่งออกในอนาคตนั้น ลดลง 16.7% แตะที่ 7.6555 แสนล้านเยนในเดือนก.ย. หลังพุ่งขึ้น 49.6% ในเดือนส.ค.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะลดลง 1.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็จะเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 6