World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 25, 2020 09:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 30,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) ขานรับความชัดเจนของทิศทางการเมืองสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เริ่มกระบวนการถ่ายโอนอำนาจให้แก่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่

-- นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างการเปิดตัวทีมนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่รัฐเดลาแวร์ในวันอังคารตามเวลาสหรัฐ โดยกล่าวว่า สหรัฐพร้อมแล้วที่จะกลับมาเป็นผู้นำบนเวทีโลกอีกครั้ง และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับบรรดาประเทศพันธมิตรของสหรัฐ โดยถ้อยแถลงของนายไบเดนถือเป็นการพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสหรัฐ หลังจากที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เคยชูนโยบาย "America First"

ทั้งนี้ นายไบเดนได้ส่งสัญญาณว่า ภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ม.ค.แล้ว เขาจะนำสหรัฐออกจากนโยบายชาตินิยมเพียงฝ่ายเดียว ซึ่งเป็นค่านิยมที่ปธน.ทรัมป์ผลักดันมาโดยตลอด จนเป็นเหตุให้สหรัฐต้องบาดหมางกับบรรดาชาติพันธมิตร โดยเฉพาะในยุโรป และสร้างปมขัดแย้งด้านการค้าระหว่างประเทศ

-- ริชาร์ด ฟอนเทน อดีตที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศซึ่งเคยทำหน้าที่ในกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า รัฐบาลชุดใหม่ของว่าที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจจะต้องคิดใหม่เรื่องอิทธิพลทางเศรษฐกิจของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากรัฐบาลของเขาจะก้าวเข้าสู่ยุคที่สหรัฐไม่ได้มีส่วนในข้อตกลงการค้าเสรีที่สำคัญใดๆ เลย ในขณะที่ประเทศต่างๆ ในเอเชียแปซิฟิกนั้นหันมาร่วมมือกันเอง

ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้น หลังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้ลงนามในข้อตกลงการค้าสำคัญ 2 ฉบับ ได้แก่ ข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

แต่เดิมนั้น รัฐบาลสหรัฐสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เคยมีส่วนในการเจรจาข้อตกลง TPP แต่ไม่เคยได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส และหลังจากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้นำสหรัฐออกจากข้อตกลงดังกล่าว ทำให้อีก 11 ชาติสมาชิกที่เหลือของข้อตกลง TPP ได้ลงนามในข้อตกลง Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership (CPTPP) แทน

-- ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 96.1 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 101.4 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 98.0

ดัชนีความเชื่อมั่นร่วงลงจากการที่ผู้บริโภคมีความวิตกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และมาตรการล็อกดาวน์

-- ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 7% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2557 หลังจากเพิ่มขึ้น 5.8% ในเดือนส.ค.

ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. โดยราคาบ้านได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน, สต็อกบ้านที่ตึงตัว และอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ระดับต่ำ

-- Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงสู่ระดับ 90.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 แต่ดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 90.2 จากระดับ 92.5 ในเดือนต.ค.

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 60,099,771 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,414,621 ราย

สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (12,955,007) รองลงมาคืออินเดีย (9,221,998), บราซิล (6,121,449), ฝรั่งเศส (2,153,815) และรัสเซีย (2,138,828)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (265,891) ตามมาด้วยบราซิล (170,179), อินเดีย (134,743), เม็กซิโก (102,739) และสหราชอาณาจักร (55,838)

-- กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียเปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีจำนวน 2,188 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 58,847 ราย

ผู้ติดเชื้อรายใหม่ส่วนใหญ่เป็นพนักงานในโรงงานของบริษัทท็อป โกลฟ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ที่สุดของโลก

นอกจากนี้ ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 4 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตรวม 341 ราย

-- ศูนย์ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ของรัสเซียเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีจำนวน 491 ราย ซึ่งเป็นจำนวนสูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดในประเทศ ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนรวม 37,031 ราย

นอกจากนี้ ผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่มีจำนวน 24,326 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 2,138,828 ราย โดยสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก

-- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวในการหารือทางโทรศัพท์กับนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีว่า จีนมีความพร้อมที่จะกระชับความร่วมมือกับเยอรมนีในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19

นอกจากนี้ ปธน.สี จิ้นผิงยังกล่าวด้วยว่า จีนจะผลักดันให้วัคซีนดังกล่าวมีการกระจายอย่างเท่าเทียมกันในฐานะสินค้าสาธารณะของประเทศต่างๆ เพื่อประโยชน์สำหรับประเทศกำลังพัฒนา

-- สหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการในวันนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2563 (ประมาณการครั้งที่ 2), รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนต.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนต.ค., ยอดขายบ้านใหม่เดือนต.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รวมถึงรายงานการประชุมวันที่ 4-5 พ.ย. ของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เช้าวันที่ 26 พ.ย.)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และเยอรมนีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก Gfk


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ