ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศษฐกิจที่ซบเซา อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปจนกว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,154.54 จุด ลดลง 44.77 จุด หรือ -0.15%
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ว่า นโยบายการคลังถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในเวลานี้ ในขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนมีแนวโน้มที่จะไม่ได้รับสวัสดิการว่างงานตามมาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ภายในสิ้นปีนี้
นายพาวเวลกล่าวว่า เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือคนว่างงานใกล้จะหมดอายุลง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจะได้รับความช่วยเหลือจากนโยบายการคลังของรัฐบาล
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของเฟดในปีนี้ เมื่อคืนที่ผ่านมา
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพื่อให้มีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเหนือระดับเป้าหมาย 2%
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลง 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.97 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ จะเข้าสู่กระบวนการกักตัว หลังจากที่ได้สัมผัสกับบุคคลที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่, วันเวลา และชื่อบุคคลที่นายปอมเปโอได้ติดต่อสัมผัส แต่โฆษกยืนยันว่า ผลการตรวจของนายปอมเปโอไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด
-- บิตคอยน์พุ่งทะลุระดับ 20,000 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากการเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ซบเซา ซึ่งทำให้มีการคาดการณ์ว่าจะทำให้รัฐบาลของนายโจ ไบเดน และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปีหน้า ณ เวลา 22.22 น.ตามเวลาไทยวานนี้ บิตคอยน์พุ่งขึ้น 1,337.75 ดอลลาร์ หรือ 6.91% สู่ระดับ 20,677 ดอลลาร์ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์มของ CoinDesk
-- กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยรายงานรอบครึ่งปีว่าด้วยประเทศที่บิดเบือนค่าเงินเมื่อคืนวานนี้ โดยได้ขึ้นบัญชีเวียดนามและสวิตเซอร์แลนด์เป็นประเทศที่ทำการปั่นค่าเงินเพื่อหวังผลทางการค้า
ขณะเดียวกัน สหรัฐได้ขึ้นบัญชีไทย, ไต้หวัน และอินเดีย เป็นประเทศล่าสุดที่ถูกจับตามอง เนื่องจากอาจมีการใช้มาตรการลดค่าเงินเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์
-- สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ออกรายงานระบุว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อาจมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell?s palsy)
รายงานเปิดเผยว่า อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ 4 รายมีอาการ Bell?s palsy จากจำนวนทั้งหมด 43,000 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นามีอาการ 4 รายเช่นกัน จากจำนวนทั้งหมด 30,000 ราย โดยจะมีอาการเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนราว 22-32 วัน
-- ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซียกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาจะเป็นคนแรกในอินโดนีเซียที่รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าวัคซีนดังกล่าวมีความปลอดภัย
"ผมขอย้ำว่าผมจะเป็นคนแรกที่รับการฉีดวัคซีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนเห็นว่าวัคซีนมีความปลอดภัย" นายวิโดโดกล่าว
-- นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐกล่าวว่า การเจรจาระหว่างแกนนำในสภาคองเกรสประสบความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลอันเนื่องจากการขาดแคลนงบประมาณ (ชัตดาวน์)
"เรามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า" นายแมคคอนเนลล์กล่าว
-- นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป (EU) กล่าวว่า การเจรจาการค้าระหว่างอังกฤษและ EU ประสบความคืบหน้า และอาจนำไปสู่การทำข้อตกลงการค้าที่จะมีผลบังคับใช้หลังจากที่อังกฤษแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ในวันที่ 1 ม.ค.2564
นางฟอน เดอร์ เลเยนกล่าวว่า แม้ว่าตนไม่สามารถบอกได้ว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้หรือไม่ แต่ขณะนี้ก็มีแนวทางที่จะนำไปสู่การทำข้อตกลงดังกล่าว และการเจรจาในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าจะมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
-- สื่อรายงานว่า สหรัฐกำลังเดินหน้ากระบวนการพิจารณาจัดเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ยางรถยนต์ที่นำเข้าจากไทย เวียดนาม เกาหลีใต้ และไต้หวัน เพื่อพิจารณาว่ามีการจำหน่ายยางดังกล่าวในราคาที่ต่ำกว่าระดับที่เหมาะสมหรือไม่ หลังจากที่ได้รับการร้องเรียนจากสหภาพแรงงานยูไนเต็ด สตีลเวิร์คเกอร์ (USW) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตยางรถยนต์ของสหรัฐ
ทั้งนี้ สหรัฐจะประกาศผลการพิจารณาจัดเก็บภาษี AD ต่อทั้ง 4 ประเทศในวันที่ 29 ธ.ค.
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนพ.ย., อียูจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. และธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ย., เยอรมนีเตรียมเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก Conference Board