สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยว่า การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนพุ่งขึ้นในเดือนพ.ย. เนื่องจากรัฐวิกตอเรียผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลแบล็คฟรายเดย์ (Black Friday) ซึ่งมีการลดราคาสินค้าลงอย่างมาก
รายงานระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ของออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 7% จากเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2%
นายเบน เจมส์ ผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจรายไตรมาสของ ABS กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกในรัฐวิกตอเรียขยายตัวขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้น 21% เนื่องจากร้านค้าปลีกสามารถทำการค้าขายได้ตลอดทั้งเดือน หลังจากผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในรัฐ" พร้อมเสริมว่า "หากไม่นับรวมรัฐวิกตอเรีย ออสเตรเลียมียอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.7%"
รายงานระบุว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลียฟื้นตัวอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในรัฐวิกตอเรียและรัฐเมลเบิร์น ตลอดจนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ทว่าข้อมูลดังกล่าวมีขึ้นก่อนออสเตรเลียพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทางตอนเหนือของเมืองซิดนีย์
เมื่อแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า ยอดการค้าปลีกสินค้าครัวเรือนเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 13% เนื่องจากยอดขายจากเทศกาลแบล็ค ฟรายเดย์ และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์หลักในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ