ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการออกมาตรกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,960.00 จุด ลดลง 36.98 จุด หรือ -0.12%
-- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เปิดตลาดลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียและอินเดียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุด
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวรับการเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในเดือนธ.ค.ที่บ่งชี้ว่า BOJ ไม่ลังเลที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายมากขึ้นหากจำเป็น ขณะที่ยังคงจับตาผลกระทบของโรคโควิด-19
-- บริษัทโมเดอร์นา อิงค์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า บริษัทเชื่อว่าวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของบริษัทสามารถป้องกันไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ที่พบในอังกฤษและแอฟริกาใต้ได้ แม้ว่าบริษัทจะทำการทดสอบการฉีดวัคซีนกระตุ้นครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายไปที่ไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ หลังจากพบว่าการตอบสนองของแอนติบอดีอาจลดลง
โมเดอร์นาระบุว่า บริษัทไม่พบการลดลงของการตอบสนองด้านแอติบอดีต่อไวรัสสายพันธุ์ที่พบในอังกฤษ แต่สำหรับสายพันธุ์แอฟริกาใต้นั้น พบว่าการตอบสนองของแอนติบอดีลดลง แต่ก็ยังคงเชื่อว่า การฉีดวัคซีน 2 โดสจะสามารถป้องกันไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ได้
-- วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนน 84 ต่อ 15 เสียง เห็นชอบให้นางเจเน็ต เยลเลน อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังคนใหม่ ซึ่งทำให้นางเยลเลนกลายเป็นสุภาพสตรีคนแรกในประวัติศาสตร์ของสหรัฐที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง
นอกเหนือจากตำแหน่งรัฐมนตรีคลังแล้ว นางเยลเลน วัย 74 ปี จะเป็นบุคคลแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาวด้วย
-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 100,074,151 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,144,654 ราย
ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 พุ่งทะลุ 100 ล้านราย หลังจากมีรายงานเป็นครั้งแรกพบผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบรุนแรงจำนวนมากในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยในเดือนธ.ค.2562
ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (25,734,159) รองลงมาคืออินเดีย (10,677,710), บราซิล (8,850,135), รัสเซีย (3,738,690), สหราชอาณาจักร (3,669,658), ฝรั่งเศส (3,057,857), สเปน (2,697,294), อิตาลี (2,475,372), ตุรกี (2,435,247), เยอรมนี (2,152,002) และโคลอมเบีย (2,015,485)
-- บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ออกแถลงการณ์ ยืนยันว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือตระกูล P Series และ Mate Series ซึ่งเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมของบริษัทแต่อย่างใด
"หัวเว่ยได้รับทราบข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงเกี่ยวกับการขายธุรกิจแบรนด์สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงของบริษัท ซึ่งบริษัทขอปฏิเสธข่าวลือดังกล่าว และยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะขายธุรกิจแต่อย่างใด" แถลงการณ์ระบุ
ก่อนหน้านี้ สื่อรายงานว่า หัวเว่ยกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือตระกูล P Series และ Mate Series โดยมีการเจรจากับกลุ่มบริษัทด้านการลงทุนที่มีรัฐบาลนครเซี่ยงไฮ้เป็นผู้สนับสนุน
-- สหภาพยุโรป (EU) เรียกร้องให้บริษัทแอสตร้าเซนเนก้าเร่งการส่งมอบวัคซีนโควิด-19 หลังจากที่ทางบริษัทประกาศลดการส่งมอบแก่ EU เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
"เราหวังว่าทางบริษัทจะสามารถหาทางออกเพื่อเร่งการส่งมอบวัคซีน" โฆษกของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU กล่าว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า EU จะกำหนดให้บริษัทยาทำการลงทะเบียนการส่งออกวัคซีนโควิด-19 เพื่อป้องกันการนำโควต้าวัคซีนของ EU ไปส่งมอบให้แก่ประเทศอื่น
-- กระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์ระบุว่า ทางกระทรวงกำลังขอข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากที่ทางการอินโดนีเซียได้เข้ายึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่าน
"ขณะนี้มีรายงานที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการยึดเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว และเรากำลังขอข้อมูลเพิ่มเติมจากอินโดนีเซีย" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ สำนักงานความมั่นคงทางทะเลแห่งอินโดนีเซีย ประกาศว่า ทางการอินโดนีเซียได้ยึดเรือบรรทุกน้ำมันจากอิหร่านและปานามา เนื่องจากต้องสงสัยว่าอาจมีการลักลอบขนถ่ายน้ำมันในน่านน้ำของอินโดนีเซีย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เกาหลีใต้เปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก Conference Board
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเปิดเผยความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนธ.ค.จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB), จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., เยอรมนีเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากสถาบัน GfK, สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย (เช้าวันที่ 28 ม.ค.)