บิตคอยน์พุ่งไม่หยุดทุบนิวไฮเหนือ 44,000 ดอลลาร์ ทะลุ 1,300,000 บาท รับข่าวดีเทสลา

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 8, 2021 20:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บิตคอยน์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทะลุ 44,000 ดอลลาร์ หรือมากกว่า 1,300,000 บาท ขานรับข่าวที่ว่า บริษัทเทสลาของนายอีลอน มัสก์ ได้ซื้อบิตคอยน์จำนวน 1,500 ล้านดอลลาร์ และบริษัทพร้อมรับบิตคอยน์จากลูกค้าสำหรับการซื้อรถยนต์

ณ เวลา 20.27 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดีดตัวขึ้น 5,440 ดอลลาร์ หรือ 13.99% สู่ระดับ 44,320 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase

เทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของนายอีลอน มัสก์ ส่งหนังสือแจ้งต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือก.ล.ต.สหรัฐว่า ทางบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์คิดเป็นมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ หรือราว 45,000 ล้านบาท

เทสลาระบุว่า "ทางบริษัทได้ซื้อบิตคอยน์เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการกระจายการลงทุน และเพื่อให้เงินสดของบริษัทสร้างผลตอบแทนสูงสุด"

นอกจากนี้ เทสลาเปิดเผยว่า บริษัทจะเริ่มต้นรับบิตคอยน์จากลูกค้าสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท

บิตคอยน์ได้พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว หลังจากที่นายอีลอน มัสก์ติดแฮชแทค #bitcoin ในบัญชีทวิตเตอร์ของเขา

บิตคอยน์เคยพุ่งขึ้นใกล้ระดับ 42,000 ดอลลาร์ในช่วงต้นปีนี้ หลังจากที่ทะยานขึ้นมากกว่า 300% ในปีที่แล้ว

นักวิเคราะห์จากบริษัทโซเชียล แคปิตัลคาดการณ์ว่า บิตคอยน์ยังคงสามารถพุ่งขึ้นต่อไป โดยอาจไปถึง 100,000 ดอลลาร์, 150,000 ดอลลาร์ และ 200,000 ดอลลาร์

นายนิโคลัส ปานิเกอร์โซโกล นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนคาดการณ์ว่า ในระยะยาวบิตคอยน์มีแนวโน้มทะยานขึ้นแตะระดับ 146,000 ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ทำให้บิตคอยน์มีแนวโน้มแข็งแกร่งมาจากการที่นักลงทุนเริ่มกระจายการลงทุนด้วยการเข้าซื้อบิตคอยน์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การดีดตัวของบิตคอยน์ในครั้งนี้แตกต่างจากในปี 2560 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากกระแสตอบรับที่คึกคักจากกลุ่มบริษัทฟินเทค และนักลงทุนรายใหญ่ในตลาด เช่น พอล ทิวดอร์ โจนส์ และสแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ โดยแตกต่างจากในปี 2560 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนรายย่อย

PayPal ยักษ์ใหญ่ฟินเทค ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินคริปโตอื่นๆ ขณะที่ PayPal ให้ลูกค้าใช้สกุลเงินคริปโตในการซื้อสินค้าจากเครือข่ายร้านค้าปลีกจำนวน 26 ล้านแห่งของทางบริษัท

ทางด้าน Square ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ทางบริษัทได้เข้าซื้อบิตคอยน์มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Square ยังได้เปิดให้บริการสกุลเงินคริปโตสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชั่น Cash ของทางบริษัท

บิตคอยน์ยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวได้ทำให้สกุลเงินของหลายประเทศอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนหันมาถือครองบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือก

นอกจากนี้ ยังมีการมองว่าบิตคอยน์มีสถานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นเดียวกับทองคำ ซึ่งนักลงทุนจะแห่เข้าซื้อในช่วงเวลาที่เกิดความตื่นตระหนก

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังใช้บิตคอยน์เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อจากการที่รัฐบาลต่างๆมีแนวโน้มออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายริค ไรเดอร์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนตราสารหนี้ของแบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวว่า ในอนาคต บิตคอยน์จะสามารถขึ้นมาทดแทนตำแหน่งของทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

"ผมคิดว่าสกุลเงินคริปโตจะยังคงอยู่ต่อไป ผมคิดว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่คงทน โดยบิทคอยน์เป็นเครื่องมือที่คงทนซึ่งจะสามารถขึ้นมาแทนที่ทอง เพราะบิตคอยน์สามารถทำหน้าที่ได้มากกว่าทอง" นายไรเดอร์กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ