World Today: ประเด็นข่าวต่างประเทศน่าติดตามวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 24, 2021 09:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.พ.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และจะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบเนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ในการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ (23 ก.พ.) พร้อมกับย้ำว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทุกอย่างเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐ และสร้างความมั่นใจว่าการฟื้นตัวจะมีความแข็งแกร่งมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นายพาวเวลยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 6% ในปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 หลังมีความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในวงกว้าง

-- ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดเมื่อคืนนี้ ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 10.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 7 ปี โดยราคาบ้านได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน, สต็อกบ้านที่ตึงตัว และอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ระดับต่ำ

ขณะที่ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 91.3 ในเดือนก.พ. จากระดับ 88.9 ในเดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 90.0 โดยดัชนีความเชื่อมั่นดีดตัวขึ้น หลังมีการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในวงกว้าง

-- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยธนาคารกลางระบุว่า การกำหนดนโยบายการเงินที่มีเป้าหมายกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งธนาคารกลางใช้อยู่ในปัจจุบันนี้ ถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อและการจ้างงาน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ยังได้คงเม็ดเงินในโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ (LSAP) ไว้ที่ระดับ 1 แสนล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือประมาณ 7.324 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งคงโครงการจัดหาเงินทุนเพื่อการปล่อยกู้ (FLP)

-- โกลด์แมน แซคส์ออกรายงานแนวโน้มราคาน้ำมันในปีนี้ โดยได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมัน จากปัจจัยสต็อกน้ำมันที่ต่ำกว่าคาด และกระแสการเก็งกำไรของนักลงทุน

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) จะพุ่งแตะระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 2 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 60 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดว่าจะแตะระดับ 75 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 3 จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรล

นอกจากนี้ มอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะดีดตัวแตะระดับ 70 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 3 จากสัญญาณบ่งชี้ภาวะตลาดที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของอุปสงค์น้ำมัน

-- นายราเกซ จุนฮุนวาลา นักลงทุนระดับมหาเศรษฐี ฉายา "วอร์เรน บัฟเฟตต์แห่งอินเดีย" กล่าวว่า หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบของอินเดียควรออกกฎเพื่อห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เช่น บิตคอยน์ ขณะที่รัฐบาลควรออกสกุลเงินรูปีในรูปแบบดิจิทัล

นายจุนฮุนวาลากล่าวว่า เขาจะไม่มีทางซื้อบิตคอยน์

"ผมคิดว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูงมาก ซึ่งผมไม่ต้องการเข้าร่วม" เขากล่าว

ขณะนี้ หน่วยงานควบคุมกฎระเบียบของอินเดียยังไม่ได้ทำการตัดสินใจเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล รวมทั้งบิตคอยน์ แต่มีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลมีแผนที่จะสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในภาคเอกชน ขณะที่เตรียมเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของรัฐบาลอินเดียเอง

-- Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 112,638,446 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 2,495,339 ราย

ขณะนี้ สหรัฐมียอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สูงสุดในโลก (28,897,718) รองลงมาคืออินเดีย (11,029,326), บราซิล (10,260,621), รัสเซีย (4,189,153), สหราชอาณาจักร (4,134,639), ฝรั่งเศส (3,629,891), สเปน (3,161,432)

นอกจากนี้ สหรัฐยังเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตสูงสุดในโลก (514,996) ตามมาด้วยบราซิล (248,646), เม็กซิโก (180,536), อินเดีย (156,598) และสหราชอาณาจักร (121,305)

-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ เยอรมนีจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2563 และสหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

ส่วนในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีกำหนดจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, เยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากสถาบัน GfK, อียูจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค. และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ