World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 4, 2021 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟดทั้ง 12 เขตหรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนม.ค.จนถึงช่วงกลางเดือนก.พ.ปีนี้ เนื่องจากยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 และห่วงโซ่อุปทานที่เผชิญกับภาวะชะงักงัน

-- สำนักงานตำรวจประจำอาคารรัฐสภาสหรัฐประกาศยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด หลังได้รับข่าวกรองว่าอาจจะมีกลุ่มกองกำลังติดอาวุธบุกเข้าพื้นที่ของอาคารรัฐสภาในวันนี้ โดยกลุ่มติดอาวุธดังกล่าวถูกผลักดันโดยทฤษฎีสมคบคิดที่ว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งในวันที่ 4 มี.ค.

-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกได้แสดงความเห็นกับผู้สื่อข่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะนี้นั้น เป็นการสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แม้นักวิเคราะห์บางคนมองว่า อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เฟดหันไปใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงินก็ตาม

-- ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ออกมาตำหนิการตัดสินใจของผู้ว่าการรัฐเท็กซัสและรัฐมิสซิสซิปปีที่ประกาศยกเลิกข้อบังคับการสวมหน้ากากอนามัยว่าเป็นความคิดที่ผิดพลาด โดยระบุว่า แม้การเดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะช่วยให้การควบคุมโรคระบาดได้ผล แต่การสวมหน้ากากอนามัย การหมั่นล้างมือ และการเว้นระยะห่างทางสังคมก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ปรับเพิ่มประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2563 โดยระบุว่า GDP ไตรมาส 4 ขยายตัว 1.2% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 1.1% โดยได้แรงหนุนจากการส่งออกที่ฟื้นตัว ส่วนตัวเลข GDP ตลอดปี 2563 หดตัวลง 1% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น

-- ธนาคารกลางมาเลเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้ โดยธนาคารกลางได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

-- คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐยอมรับว่า บรรยากาศการแข่งขันระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ถือเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่สหรัฐต้องเผชิญ ขณะที่นายแอนโทนี บลินเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐให้ความเห็นว่า จีนเป็นบททดสอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษนี้

-- กลุ่มนักเคลื่อนไหวสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาได้ให้คำมั่นว่าจะยังคงมีการชุมนุมประท้วงต่อไป แม้ว่านางคริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติ (UN) ประจำเมียนมาระบุว่า ขณะนี้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตมากถึง 38 ราย โดยตัวเลขนี้ถือเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาได้ก่อรัฐประหารและเข้ายึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลเมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา

-- ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้สั่งการให้ธนาคารพาณิชย์จับตาการทำธุรกรรมทางการเงินหรือเม็ดเงินหมุนเวียนที่น่าสงสัยระหว่างสิงคโปร์และเมียนมา โดยระบุถึงความกังวลเกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะนี้

-- นายจอช ฟรายเดนเบิร์ก รมว.คลังออสเตรเลียได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีว่า การเจรจากับเฟซบุ๊กเกี่ยวกับกฎหมายสื่อฉบับใหม่หรือ News Media and Digital Platforms Mandatory Bargaining Code นั้นค่อนข้างยืดเยื้อและยุ่งยาก แต่สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็สามารถแก้ไขความขัดแย้งระหว่างกันได้

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติด้วยคะแนนเสียง 220 ต่อ 212 อนุมัติร่างพระราชบัญญัติความยุติธรรมจอร์จ ฟลอยด์ ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ หรือ George Floyd Justice in Policing Act ซึ่งได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่จอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่ถูกตำรวจล็อกคอจนเสียชีวิตในรัฐมินนิโซตา จนจุดชนวนประท้วงทั่วประเทศ โดยร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะห้ามไม่ให้มีการรัดคอและยกเลิกการคุ้มครองของศาลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดจนสร้างมาตรฐานระดับประเทศสำหรับตำรวจเพื่อส่งเสริมความรับผิดชอบ

-- สถาบันวิจัยเฮอริเทจ ฟาวน์เดชั่นซึ่งเป็นองค์กรคลังสมองของสหรัฐได้ตัดฮ่องกงออกจากการจัดอันดับดัชนีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ (Index of Economic Freedom) แม้ว่าฮ่องกงจะเคยครองอันดับ 1 ของดัชนีดังกล่าวติดต่อกันมาเป็นเวลา 25 ปีจนถึงปี 2562 ก็ตาม โดยทางสถาบันให้เหตุผลว่า นโยบายทางเศรษฐกิจของฮ่องกงนั้นถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ