ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (17 มี.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมส่งสัญญาณว่าจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดยืนยันว่า เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,015.37 จุด เพิ่มขึ้น 189.42 จุด หรือ +0.58%
-- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยระบุว่า อุปสงค์ที่แข็งแกร่งอย่างมากเป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกด้วย
-- บิตคอยน์พุ่งขึ้นกว่า 2.4% ในช่วงเช้านี้ หลังสื่อรายงานว่า ธนาคารมอร์แกน สแตนลีย์ เสนอให้ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจบริหารความมั่งคั่งสามารถเข้าลงทุนในกองทุนบิตคอยน์
ณ เวลา 07.38 น.ตามเวลาไทย ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้น 1,400 ดอลลาร์ หรือ 2.42% แตะที่ 59,235 ดอลลาร์
-- เมื่อคืนที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 แม้มีการคาดการณ์เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
-- สื่อรายงานว่า มอร์แกน สแตนลีย์นับเป็นธนาคารใหญ่แห่งแรกของสหรัฐที่เสนอให้ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจบริหารความมั่งคั่งสามารถเข้าลงทุนในกองทุนบิตคอยน์
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ลูกค้าของทางธนาคารแสดงความจำนงที่จะเข้าลงทุนในบิตคอยน์ ขณะที่บิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ต้นปีนี้
-- องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ระบุว่า ประเทศต่างๆควรใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าต่อไป ในระหว่างที่คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ WHO ยังคงทำการพิจารณาทบทวนความปลอดภัยของวัคซีนดังกล่าว หลังมีรายงานการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนบางราย
"การฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ไม่ได้ช่วยลดอาการป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคอื่น โดยอาการลิ่มเลือดอุดตันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้บ่อย และอาการลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำนับเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจที่พบเห็นมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ทั่วโลก" แถลงการณ์จาก WHO ระบุ
-- สำนักงานการสื่อสารอังกฤษ (OFCOM) เปิดเผยว่า ทางสำนักงานได้เสร็จสิ้นการประมูลคลื่นความถี่โทรศัพท์ระบบ 5G โดยมีรายได้จากการประมูลทั้งสิ้น 1.36 พันล้านปอนด์ (1.89 พันล้านดอลลาร์) หรือราว 58,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทโทรศัพท์มือถือทั้ง 4 แห่งของอังกฤษต่างก็สามารถประมูลคลื่นเพื่อพัฒนาเครือข่ายของตน ทั้งนี้ บริษัท EE, Telefonica UK และ Hutchison 3G UK สามารถประมูลคลื่นในย่าน 700 Mhz ขณะที่ Vodafone สามารถประมูลคลื่นในย่าน 3.6-3.8GHz ส่วน EE และ Telefonica สามารถประมูลคลื่นในย่านดังกล่าวเช่นกัน
-- สมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนอง (MBA) ของสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนผู้ที่ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการรีไฟแนนซ์ลดลง 4% ในสัปดาห์ที่แล้ว และดิ่งลง 39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการดีดตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
อย่างไรก็ดี ผู้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 2% ในสัปดาห์ที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนก.พ., อียูจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนม.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เตรียมจัดประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟียและจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ. และธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, ออสเตรเลียมีกำหนดเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.