ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวในอัตรารวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 252
-- สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ วาณิชธนกิจรายใหญ่ของสหรัฐได้เทขายหุ้นมูลค่า 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ในการซื้อขายแบบ Block Trade เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ซึ่งถือเป็นการเทขายหุ้นล็อตใหญ่ที่มีมูลค่าสูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อีกทั้งเป็นการเทขายหุ้นจำนวนหลายตัวตั้งแต่หุ้นของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน ไปจนถึงหุ้นกลุ่มสื่อของสหรัฐ
การเทขายหุ้นล็อตใหญ่ของโกลด์แมน แซคส์ในครั้งนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน และต่างพากันวิเคราะห์แรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังการเทขายหุ้นในครั้งนี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาดูว่าโกลด์ แมนแซคส์ จะเทขายหุ้นในลักษณะดังกล่าวออกมาอีกหรือไม่
รายงานระบุว่า ก่อนที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเปิดทำการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ (26 มี.ค.) โกลด์แมน แซคส์ ได้ขายหุ้น Baidu Inc., หุ้น Tencent Music Entertainment Group และหุ้น Vipshop Holdings คิดเป็นมูลค่ารวม 6.6 พันล้านดอลลาร์ จากนั้นได้ขายหุ้น ViacomCBS Inc., หุ้น Discovery Inc., หุ้น Farfetch Ltd., หุ้น iQiyi Inc. และหุ้น GSX Techedu Inc. คิดเป็นมูลค่า 3.9 พันล้านดอลลาร์
-- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 84.9 ในช่วงปลายเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากระดับ 83 ในการสำรวจเบื้องต้นในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 83.6
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.ปีนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง หลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ข้อมูลของ NBS ระบุว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมจีนที่มีรายได้ต่อปีอย่างน้อย 20 ล้านหยวน (3.06 ล้านดอลลาร์) ทะยานขึ้น 179% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ. 2564 แตะที่ระดับ 1.114 ล้านล้านหยวน (1.7031 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563
NBS ยังระบุด้วยว่า กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานโดยรัฐบาลจีน พุ่งขึ้น 182% เมื่อเทียบรายปี ส่วนกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่ดำเนินงานโดยภาคเอกชน พุ่งขึ้น 137% และกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่ลงทุนโดยต่างชาติ พุ่งขึ้น 219%
-- บริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทในเครือของโนมูระในสหรัฐมีแนวโน้มขาดทุนสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการทำธุรกรรมกับลูกค้ารายหนึ่งในสหรัฐ นอกจากนี้ โนมูระเปิดเผยว่า ทางบริษัทอาจจะยกเลิกแผนการออกหุ้นกู้ อันเนื่องมาจากสถานการณ์ดังกล่าว
โนมูระระบุว่า การขาดทุนที่เกิดจากการทำธุรกรรมกับลูกค้ารายหนึ่งในสหรัฐนั้น คิดเป็นเงินประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยพิจารณาจากราคาตลาด ณ วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมูลค่าความเสียหายอาจจะเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งจะขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาในตลาด อย่างไรก็ดี โนมูระไม่ได้ระบุชื่อลูกค้ารายดังกล่าว
-- ภารกิจกู้เรือ Ever Given ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่เกยตื้นขวางคลองสุเอซมาตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.นั้นได้เข้าสู่ช่วงสำคัญ หลังทีมเจ้าหน้าที่ทำการขุดริมฝั่งคลองสุเอซบางส่วนเพิ่มเติมเพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายเรือดังกล่าวด้วยการดึงลาก
นายปีเตอร์ เบอร์ดาวสกี ซีอีโอของบริษัท Boskalis ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจกู้เรือครั้งนี้กล่าวว่า "ปฏิบัติการกู้เรือในช่วงเวลา 04.00-05.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้ดำเนินไปอย่างตึงเครียด การเป็นไปของภารกิจในส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับสภาพดินที่อยู่ใต้ท้องเรือ แต่ผมคาดว่ามีโอกาส 50% ที่ภารกิจจะสำเร็จ"
ขณะนี้ยังคงมีการขุดลอกคลองสุเอซอย่างต่อเนื่อง และมีเรือลากอีกหนึ่งลำกำลังเดินทางไปยังตำแหน่งของเรือ Ever Given โดยทีมปฎิบัติการขุดลอกคลองได้ขุดทรายออกมาแล้ว 2.7 หมื่นลูกบาศก์เมตรจากการขุดสองฝั่งของคลองสุเอซเข้าไปเป็นระยะทางลึก
-- ข้อมูลจาก MarineTraffic และ ClipperData ระบุว่า เรือขนส่งน้ำมันและเรือขนส่งก๊าซธรรมชาติหลายลำ ซึ่งรวมถึงเรือของบริษัทเชอร์เนียร์ และบริษัทเชลล์ ต่างกำลังหาเส้นทางเดินเรือใหม่ เพื่อเลี่ยงจุดเกิดเหตุเรือยักษ์ขวางคลองสุเอซซึ่งยืดเยื้อมาเกือบสัปดาห์แล้ว
โฆษกของ MarineTraffic เปิดเผยว่า ขณะนี้มีเรือบรรทุกน้ำมันและเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์อย่างน้อย 10 ลำที่กำลังเปลี่ยนเส้นทาง โดยตัวเลขดังกล่าวน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีกในขณะที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจในวันนี้ โดยอังกฤษเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนมี.ค.จากเนชั่นไวด์ และสหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดสาขาดัลลัส
ส่วนพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยอัตราว่างงานและยอดค้าปลีกเดือนก.พ. เยอรมนีเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. ทางด้านสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากคอนเฟอเรนซ์บอร์ด