ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงปลายเดือนพ.ค.จนถึงต้นเดือนก.ค.ปีนี้ แม้ภาวะเศรษฐกิจได้รับแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าผู้บริโภค
"เศรษฐกิจมีการขยายตัวปานกลางจนถึงแข็งแกร่งในช่วงปลายเดือนพ.ค.จนถึงต้นเดือนก.ค. โดยอุตสาหกรรมที่มีการขยายตัวสูงกว่าค่าเฉลี่ยนั้น รวมถึงอุตสาหกรรมการขนส่ง การเดินทางและการท่องเที่ยว การผลิต และธุรกิจนอกภาคการเงิน" รายงาน Beige Book ของเฟดระบุ
"เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดีแม้เผชิญกับภาวะติดขัดด้านอุปทาน ซึ่งรวมถึงการขาดแคลนวัตถุดิบและแรงงาน ความล่าช้าในการขนส่ง และสต็อกสินค้าผู้บริโภคที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ" รายงานของเฟดระบุ
นอกจากนี้ รายงาน Beige Book ยังระบุว่า ราคาสินค้าและการบริการทั่วประเทศพุ่งขึ้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งส่งผลให้เกิดแรงกดดันเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่พักอาศัย เนื่องจากการที่โรงแรมและภัตตาคารต่างพากันกลับมาให้บริการอีกครั้งนั้น เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่สหรัฐยังคงเผชิญปัญหาติดขัดด้านการลำเลียงขนส่งวัตถุดิบและการจัดหาแรงงาน
การเปิดเผยรายงาน Beige Book มีขึ้นหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อคืนนี้ โดยระบุว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว จากการที่รัฐต่างๆทำการเปิดเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นายพาวเวลคาดว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะดีดตัวขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะปรับตัวลงเมื่อสถานการณ์ต่างๆกลับสู่ภาวะปกติ
อย่างไรก็ดี นายพาวเวลกล่าวว่า แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้ แต่เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย